'รมว.เฮ้ง' ขานรับนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.64

'รมว.เฮ้ง' ขานรับนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.64

  • 0 ตอบ
  • 84 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Jenny937

  • *****
  • 2838
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 


กระทรวงแรงงงาน รวบรวมตำแหน่งงาน222,871อัตราจากทั่วประเทศ พร้อมจับมือสถานประกอบการ โปรโมทตำแหน่งงาน รายได้ สวัสดิการผ่านคลิป VDO หวังเพิ่มข้อมูลช่วยตัดสินใจให้คนว่างงาน


นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดในช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ต่างห่วงใยพี่น้องแรงงานไทยมาโดยตลอด รัฐบาลจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนไปพร้อมกับปกป้องการทำมาหากินตามปกติของประชาชน

โดยวันนี้ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยกำลังค่อยๆลดลง และมีกำหนดเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ภาคธุรกิจท่องเที่ยว บริการ การเดินทาง และความบันเทิงจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ในฐานะ รมว.แรงงานได้ติดตามสถานการณ์การจ้างงานอย่างใกล้ชิด และมีข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการจัดหางาน ติดตามการรวบรวมตำแหน่งงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยเน้นการทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่หารือและสำรวจความต้องการการจ้างงานจากสถานประกอบการอย่างเป็นปัจจุบันที่สุด เพื่อผลักดันให้เกิดการจ้างงานโดยเร็ว และทำหน้าที่ผู้ประสานการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเป็นระบบระหว่างจังหวัดที่มีความต้องการจ้างงานแต่ไม่มีกำลังแรงงาน กับจังหวัดที่มีคนต้องการหางานทำจำนวนมากแต่มีตำแหน่งงานว่างไม่เพียงพอที่จะรับเข้าทำงาน

ทั้งนี้ผลการสำรวจความต้องการจ้างงานแรงงานไทยทั่วประเทศ ณ เดือนตุลาคม 2564 พบมีตำแหน่งงานว่าง 222,871 อัตรา โดยตำแหน่งงานว่าง 5 อันดับแรกที่นายจ้าง/สถานประกอบการต้องการมากที่สุดได้แก่ 1.แรงงานด้านการประกอบ 2.แรงงานบรรจุภัณฑ์ 3.พนักงานขายของหน้าร้าน และสาธิตสินค้า 4.ตัวแทนจัดหาบริการทางธุรกิจและนายหน้าการค้าอื่นๆ และ 5.ตัวแทนฝ่ายขายด้านเทคนิคและการค้า ซึ่งประเภทกิจการที่ต้องการจ้างงานมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการผลิต 2.อุตสาหกรรมขายส่ง/ปลีกจักรยานยนต์ และการซ่อมจักรยานยนต์ 3.อุตสาหกรรมก่อสร้าง 4.อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ 5.กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า นอกจากการมอบหมายให้สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศลงพื้นที่จัดหางานเชิงรุกแล้ว กรมการจัดหางานยังร่วมมือกับสถานประกอบการชั้นนำ 42 แห่ง ใน 16 จังหวัด ที่มีความต้องการจ้างงานแรงงานไทยทดแทนแรงงานต่างด้าว อาทิ บริษัท ไทย-นิจิ อินดัสทรี จำกัด จังหวัดลำพูน บริษัท คาร์กิลมีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จังหวัดนครราชสีมา บริษัท ไก่สดเซนทาโก จำกัด จังหวัดปทุมธานี บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จังหวัดเพชรบุรี บริษัท ศรีตรังโกลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด จังหวัดชลบุรี บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟีดแอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ในการจัดทำคลิปวีดีโอแนะนำสถานประกอบการ ตำแหน่งงานและลักษณะงาน รายได้ รวมถึงสวัสดิการต่างๆที่จะได้รับ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เพิ่มความเชื่อมั่น และโอกาสในการเข้าทำงาน แก่กลุ่มผู้สมัครงานคนไทยที่มีระดับการศึกษาไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำงานในตำแหน่งพนักงานฝ่ายผลิต พนักงานขาย พนักงานประจำร้าน พนักงานจัดเรียงสินค้า ฯลฯ ซึ่งอย่างน้อยจะได้รับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามวุฒิการศึกษา รวมทั้งค่าทำงานล่วงเวลา เบี้ยขยัน และสวัสดิการต่างๆ ที่บริษัทกำหนด ได้มีงานทำ มีรายได้ สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวต่อไป

ทั้งนี้คนหางาน ผู้ว่างงาน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ผู้ที่ต้องการมีงานทำ และผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมคลิปวีดีโอแนะนำสถานประกอบการฯ ได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือติดต่อขอรับบริการจัดหางาน ณ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสมัครงานผ่านช่องทางการให้บริการจัดหางานรูปแบบออนไลน์ด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปติดต่อที่สำนักงาน ลดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19