นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับ
การเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน เพื่อใช้ในการดูแล แก้ปัญหา และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ประสบปัญหาทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน ทั้งด้านผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ จังหวัดละ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมมีความต้องการใช้เงินมากกว่า 20 ล้านบาท ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถส่งเรื่องเพื่อขอขยายวงเงินทดรองราชการได้ โดยส่งเรื่องผ่านมายังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) ซึ่งจะประสานมายัง ปภ. ส่วนกลาง และกรมบัญชีกลาง เพื่อขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยจะเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทตามลำดับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความรุนแรง
“ต้องยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ขยายเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้น กรมบัญชีกลางเองได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่ากรมฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเบิกจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ปัจจุบันมีบางจังหวัดได้ขอขยายวงเงินเพิ่มบ้างแล้ว โดยวงเงินทดรองราชการยังเพียงพอในการดูแลสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนอยู่”
สำหรับวัตถุประสงค์ของวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินนั้น เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติกรณีฉุกเฉิน บรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยให้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีพ และความเป็นอยู่ของประชาชน หรือเป็นการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้คืนสู่สภาพเดิม หรือเพื่อป้องกัน ยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นการให้ความช่วยเหลือแบบจำเป็นเร่งด่วน เช่น ให้เงินทุนประกอบอาชีพ ถุงยังชีพ อาหาร เรื่องดื่ม เป็นต้น โดยจะมีหลักเกณฑ์ของ ปภ. ในการกำหนดการใช้เงินทดรองราชการดังกล่าวอย่างชัดเจนอยู่แล้ว