สปสช.ชวนจับคู่ฉีดฟรี 'วัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่' เว้นระยะห่าง 2 สัปดาห์ ลดแทรกซ้อนได้

สปสช.ชวนจับคู่ฉีดฟรี 'วัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่' เว้นระยะห่าง 2 สัปดาห์ ลดแทรกซ้อนได้

  • 0 ตอบ
  • 63 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Chigaru

  • *****
  • 2319
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 



สปสช.เชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่คู่ไปกับวัคซีนโควิด-19 เว้นระยะห่างกัน 2 สัปดาห์ ชี้ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนทำให้ป่วยรุนแรงน้อยลงโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ย้ำยังมีวัคซีนเหลืออีก 4 ล้านโดสเปิดให้ฉีดไปจนถึงสิ้นปีนี้ พร้อมเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม ทั้งกลุ่มบุคลากรดูแลผู้ป่วยโควิด-19 หรือผู้ที่ทำงานหรือพักอาศัยที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เช่น ชุมชนแออัด ตลาด สถานที่สาธารณะ ผู้ขับขี่รถโดยสาร กลุ่มครูและเด็กนักเรียน  

วันนี้ (3 ต.ค.) นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการสำนัก กลุ่มภารกิจสนับสนุนการเข้าถึงบริการปฐมภูมิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน สปสช.จึงอยากขอเชิญประชาชนมารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ควบคู่ไปกับการรับวัคซีนโควิด-19 ด้วย

นพ.สาธิต กล่าวว่า ปกติแล้ว สปสช.ให้สิทธิประโยชน์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อาทิ โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง ไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรักษาด้วยเคมีบำบัด กลุ่มผู้สูงอายุที่เกิน 65 ปีขึ้นไป กลุ่มเด็กเล็กเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ขวบ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กก. ขึ้นไปและกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ โดยเริ่มรณรงค์ให้ฉีดมาตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งปกติแล้วแต่ละปีจะได้รับจัดสรรงบประมาณ 2 ล้านโดส แต่ปีนี้เป็นปีพิเศษ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณจำนวน 6.4 ล้านโดส ซึ่งตั้งแต่เดือน พ.ค.จนถึงปัจจุบัน ให้บริการไปเกือบ 2 ล้านโดส ยังมีวัคซีนเหลืออีกประมาณ 4 ล้านโดส

นพ.สาธิต กล่าวว่า การรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ควบคู่ไปกับวัคซีนโควิด-19 จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะมีการวิจัยแล้วพบว่าถ้าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วติดเชื้อโควิด-19 ก็จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หรือพูดง่ายๆคือป่วยรุนแรงน้อยลง ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก็จะลดลง นอกจากนี้ ถ้าพูดถึงโรคไข้หวัดใหญ่โดยตรง การฉีดวัคซีนก็จะลดความรุนแรงของโรค ลดโอกาสป่วยหนักจนเป็นปอดบวม อาการป่วยไม่หนักจนต้องนอนโรงพยาบาลและรักษาเร็วหายเร็วขึ้น 



นพ.สาธิต กล่าวด้วยว่า นอกจาก 7 กลุ่มเสี่ยงข้างต้นแล้ว คณะกรรมการ สปสช. ยังอนุมัติกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม โดยเพิ่มกลุ่มบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 หรือสายงานอื่นๆที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย กลุ่มที่พักอาศัยหรือทำงานในที่ที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เช่น ชุมชนแออัด ตลาด สถานที่สาธารณะหรือแม้กระทั่งผู้ขับขี่รถโดยสาร และอีกกลุ่มคือกลุ่มครูและเด็กนักเรียนที่กำลังใกล้เปิดเทอมเร็วๆนี้ ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะสามารถเข้ามารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปพร้อมกับวัคซีนโควิด-19 ได้

“สิทธินี้ถือเป็นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ดังนั้นไม่เฉพาะสิทธิบัตรทอง แต่สิทธิประกันสังคม ข้าราชการหรือสิทธิอื่นๆก็มาฉีดได้ ดังนั้นควรจะฉีดนะครับ ที่ผ่านมาบางคนถึงแม้ไม่มีสิทธิ์เขาก็ยอมที่จะเสียเงินไปฉีดตามโรงพยาบาลเอกชนเองเข็มละ 500-700 บาท แต่ตอนนี้ สปสช.เราขยายสิทธิให้ฉีดฟรีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปีครับ”นพ.สาธิต กล่าว

นพ.สาธิต กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อแนะนำในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ร่วมกับวัคซีนโควิด-19 นั้น ให้เว้นระยะประมาณ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก่อนแล้วค่อยฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้จบก่อนแล้วมาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ต่อ หรือฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่คั่นกลางระหว่างวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 กับ 2 ก็ได้ แต่ต้องห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เหตุผลเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกรณีที่ผลข้างเคียง จะได้แยกได้ว่าเกิดจากวัคซีนอะไร และเพื่อไม่ให้ปฏิกิริยาระหว่างการฉีดวัคซีน 2 ตัวนี้ปนกัน จะได้มีภูมิคุ้มกันในระดับที่ดีทั้งสองตัว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อที่ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้โดยตรง รวมถึงโรงพยาบาลตามสิทธิหรือโรงพยาบาลที่ท่านไปรับบริการเป็นประจำ โดยอาจโทรสอบถามก่อนว่ามีวัคซีนหรือไม่ ถ้ามีก็จะได้ทำการนัดหมายจองคิวล่วงหน้าแล้วเข้าไปฉีดได้เลย เพื่อไม่ให้ไปแออัดในโรงพยาบาล