ผลวิจัยสหรัฐฯชี้วัคซีนแอสตร้าฯป้องกันป่วยโควิดรุนแรง74%

ผลวิจัยสหรัฐฯชี้วัคซีนแอสตร้าฯป้องกันป่วยโควิดรุนแรง74%

  • 0 ตอบ
  • 66 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hanako5

  • *****
  • 1982
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




แอสตร้าเซนเนก้าเผยผลการทดลองทางคลินิกในอเมริกาที่รอคอยมานาน พบวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทซึ่งพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการได้ถึง 74% และเพิ่มเป็น 83.5% สำหรับกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป เตรียมขออนุมัติใช้เต็มรูปแบบจากเอฟดีเอเร็วๆ นี้

ประสิทธิภาพโดยรวมที่ 74% นี้ถือว่าต่ำกว่าตัวเลขชั่วคราวที่ 79% ที่แอสตร้าเซนเนก้ารายงานเมื่อเดือนมีนาคม และมีการทบทวนใหม่เป็น 76% ในไม่กี่วันต่อมาหลังถูกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำหนิว่า เป็นตัวเลขที่อิงกับข้อมูลล้าสมัย

สำหรับข้อมูลล่าสุดที่บริษัทยาอังกฤษแห่งนี้เผยแพร่ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน เมื่อวันพุธ (29 ก.ย.) นั้น มาจากการทดลองทางคลินิกกับอาสาสมัครกว่า 26,000 คนในอเมริกา ชิลี และเปรู ที่ได้รับวัคซีน 2 โดสในระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน

รายงานระบุว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงหรือถึงขั้นวิกฤต ในหมู่อาสาสมัครกว่า 17,600 คนที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เทียบกับ 8 คนที่ติดเชื้อและมีอาการรุนแรงหรือวิกฤตจากอาสาสมัครกว่า 8,500 คนที่ได้วัคซีนหลอก กลุ่มนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 2 คน แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ได้วัคซีนจริง

พ.ญ.แอนนา เดอร์บิน ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแพทย์ผู้วิจัยในการศึกษานี้ แสดงความประหลาดใจแกมยินดีว่า ผลลัพธ์โดยรวมบ่งชี้ว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าสามารถป้องกันอาการรุนแรงและการเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี

การศึกษานี้ยังไม่พบภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในผู้ที่ได้รับวัคซีนที่แอสตร้าเซนเนก้าร่วมพัฒนากับนักวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ

อนึ่ง ปลายเดือนกรกฎาคม แอสตร้าเซนเนก้าเผยว่า มีแผนยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 เต็มรูปแบบกับสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) แทนที่จะขออนุญาตใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยปาสกาล โซเรียต ประธานบริหารบริษัทแถลงในขณะนั้นว่า เขาหวังว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจะมีบทบาทสำคัญในอเมริกา แม้ว่ากระบวนการต่างๆ ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ก็ตาม

บริษัทยาแห่งนี้ยังกำลังศึกษาวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนของบริษัท หรือวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค หรือโมเดอร์นาครบ 2 เข็มแล้ว

ปัจจุบัน วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ชื่อว่า แว็กซ์เซฟเรีย ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกว่า 170 ประเทศ โฆษกของบริษัทคาดว่า จะยื่นขออนุมัติให้ใช้ในอเมริกาปลายปีนี้

เดอร์บินทิ้งท้ายว่า ไม่คาดหวังว่า จะมีการใช้แว็กเซฟเรียในอเมริกามากนัก กระนั้น การได้รับอนุมัติจากเอฟดีเอถือว่า วัคซีนตัวนี้ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง

(ที่มา: รอยเตอร์)