วันที่ 29 ก.ย. 2564 รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ในรายการ 'คนเคาะข่าว' ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง 'นิวส์วัน'
โดย รศ.ดร.เสรี กล่าวว่า ฝนปีนี้เทียบกับปีก่อน มากกว่าแทบทุกภาค แต่เทียบกับปี 54 ฝนภาคเหนือยังน้อยกว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าปีนี้ฝนตกไม่มาก ปริมาตรเขื่อนเหลือมาก
แต่ฝนภาคกลางตกหนักพอ ๆ กับปี 54 แล้ว ฉะนั้นพฤติกรรมน้ำท่วมจะต่างกันเลย น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากฝนที่ตกในภาคกลางนี่แหละ จะไม่มีน้ำเหนือเป็นแรงผลักทำให้หนัก แต่จะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมไหลเอ่อช้า ๆ แต่อยู่กับเรานาน ระบบระบายน้ำก็รู้ ๆ อยู่ว่าเราสร้างบ้านเรือนกันยังไง
เราประมาทไม่ได้ เพราะไม่อาจคาดเดาพายุที่จะเข้าหลังจากนี้ หรือฝนจะตกอีกเท่าไหร่ ความรุนแรงมีแน่นอน ระดับน้ำอาจสูงกว่า 54 ด้วย ถ้าฝนตกเยอะ
รศ.ดร.เสรี กล่าวอีกว่า คาดการณ์พายุเกิดช่วง ต.ค. นี้ ประมาณ 6-7 ลูก แต่โอกาสเข้าประเทศไม่ใช่ทุกลูก ไม่มีใครบอกได้จะเข้าหรือไม่เข้า จะรู้ได้ล่วงหน้าประมาณ 3-4 วันเท่านั้น
วันที่ 8-9 ต.ค.นี้ พายุจ่อเข้าไทย ความรุนแรงอาจมากกว่าพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ต้องติดตามเมื่อถึงเวลาจะแรงกว่าหรือไม่
ที่คาดการณ์ว่าจะเข้าทางอีสานเหนือ แต่ถึงเวลาอาจเข้าอีสานกลาง เป็นไปได้หมด เราไม่กังวลถ้าตกภาคเหนือ เพราะเขื่อนยังสามารถรับน้ำได้อยู่ ตอนนี้ 40-50 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าตกใต้อ่างมีปัญหาแน่
รศ.ดร.เสรี กล่าวว่า ใน กทม. น้ำท่วมแบ่งได้ 2 ประเภท คือ น้ำเหนือหลากมา ขออย่าให้เกิน 3,500 ลบ.ม. ตอนปี 54 ประมาณ 3,800 ลบ.ม. ก็เกิดปัญหา ขณะนี้เขากำลังปล่อยน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 3,000 ลบ.ม. อย่าลืมมีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีก ที่จะลงมาบรรจบ เมื่อวานเขื่อนป่าสักฯ เตือนแล้ว มีโอกาสเต็ม 30 ก.ย. พอเต็มก็ต้องเร่งระบายเพื่อรับพายุลูกใหม่ อีกประเภทคือ ฝนตกหนักในพื้นที่ กทม. ที่รู้จักกันคือน้ำรอการระบาย เกิดแน่แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้