เอเวอร์แกรนด์ กำลังเผชิญกับภาวะล้มละลายหลังจากขยายตัวอย่างรวดเร็วและไล่ซื้อกิจการต่าง ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งวิกฤติสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริษัททำให้เกิดความกลัวว่ายักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์แห่งนี้จะผิดนัดชำระหนี้และก่อให้เกิดความเสี่ยงในวงกว้างต่อระบบการเงินของจีน
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหน่วยงานจัดอันดับอย่างฟิทช์ ระบุว่า บริษัทจำนวนมากอาจมีความเสี่ยงด้านสินเชื่อ
ซื้อหวยออนไลน์เพิ่มขึ้นมากหากเอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้จริง แม้ว่าผลกระทบโดยรวมที่มีกับภาคการธนาคารจีนจะสามารถจัดการได้
“เราเชื่อว่าการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะยิ่งทำให้สินเชื่อในกลุ่มผู้สร้างบ้านมีช่องว่างมากขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดปัญหากับธนาคารขนาดเล็กบางแห่ง” ฟิทช์ ระบุ
ทั้งนี้ ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอเวอร์แกรนด์ เป็น “CC” จาก “CCC+” เมื่อวันที่ 7 ก.ย. บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้บางอย่าง
เมื่อวันอังคาร(14ก.ย.)เอเวอร์แกรนด์ ระบุว่าได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบทางเลือกทางการเงิน พร้อมทั้งเตือนถึงความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากบริษัทขายสินทรัพย์ได้ลดลง
ฟิทช์ กล่าวว่าขณะนี้ เงินกู้ยืมของเอเวอร์แกรนด์ จำนวน 572,000 ล้านหยวน (88,800 ล้านดอลลาร์) ถือครองโดยธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆแต่ธนาคารอาจมีความเสี่ยงทางอ้อมกับซัพพลายเออร์ของเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นหนี้ 667,000 ล้านหยวนในส่วนของสินค้าและบริการ
เมื่อไม่นานมานี้ ฟิทช์ได้เพิ่มการทดสอบความอ่อนไหวของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราส่วนเงินกองทุนเฉลี่ยของธนาคาร 4,000 แห่งในประเทศจะลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)สำหรับสินเชื่อเพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 15 คะแนน
หลังจากมีข่าวนี้ ราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ร่วงลงมาอีก 5% ที่ 2.82 ดอลลาร์ฮ่องกงในช่วงเช้าของวันพุธ(15ก.ย.) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือน ม.ค.ปร 2557
เมื่อวันพุธ มีประชาชนประมาณ 40 คนพยายามจะบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของเอเวอร์แกรนด์ในนครเสิ่นเจิ้นแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนห้ามไว้และการพยายามบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายที่สำนักงานใหญ่เมื่อสองวันก่อน เนื่องจากนักลงทุนที่ไม่พอใจรวมตัวกันที่ล็อบบี้เพื่อเรียกร้องขอชำระคืนเงินกู้และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากบริษัท
ขณะที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่บ่งชี้ว่า การประท้วงของประชาชนและนักลงทุนที่ไม่พอใจบริษัทไม่ได้เกิดขึ้นที่เสิ่นเจิ้นที่เดียว มีการประท้วงลักษณะนี้ในเมืองอื่นๆของจีนด้วยเช่นกัน