ปตท.สผ.จ่อถกรัฐปรับเงื่อนไขในโครงการเอราวัณ หลังเข้าพท.ไม่ได้

ปตท.สผ.จ่อถกรัฐปรับเงื่อนไขในโครงการเอราวัณ หลังเข้าพท.ไม่ได้

  • 0 ตอบ
  • 79 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Shopd2

  • *****
  • 2300
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)(PTT EP)หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมหารือกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนไขต่างๆตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต(PSC)ในโครงการ G1/61 (เอราวัณ) หลังจาก ปตท.สผ.ไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อติดตั้งแท่นและเจาะหลุมผลิตในโครงการเอราวัณได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้บริษัทผลิตก๊าซฯได้ตามสัญญา PSC ที่กำหนดไว้ 800ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันหลังสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงในเดือนเม.ย. 2565 โดยเบื้องต้นบริษัทคาดว่าปริมาณก๊าซในแหล่งเอราวัณจะหายไปต่ำกว่าสัญญาPSC เกือบ50%หรือราว 400ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ดังนั้น ปตท.สผ.มีแผนจะผลิตก๊าซฯจากแหล่งบงกชและแหล่งอาทิตย์เข้ามาชดเชย รวมทั้งปตท.ในฐานะผู้บริหารก๊าซฯในอ่าว มีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)เข้ามาเสริม และเร่งผลิตก๊าซจากแหล่งJDA เข้ามาทดแทนก๊าซฯที่ขาดหายไป ขณะนี้ทุกฝ่ายมีความเป็นห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการเอราวัณ หากปตท.สผ.บริหารไม่ดี ย่อมส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าได้ และมั่นใจว่าจะไม่ให้เกิดผลกระทบเช่นนี้

“บริษัทคาดว่าจะรักษาอัตราการผลิตก๊าซฯจากแหล่งบงกชให้อยู่ระดับปัจจุบันที่800-900ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน สูงกว่าสัญญาPSC ที่ระบุไว้ที่ 700ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยปริมาณก๊าซส่วนเกินนี้จะนำมาชดเชยก๊าซจากแหล่งเอราวัณที่หายไป เบื้องต้นบริษัทมั่นใจว่าทำสัญญาข้อตกลงการส่งมอบสิ่งติดตั้งในแหล่งบงกช(G2)ได้ภายในปีนี้”



นายพงศธร กล่าวว่า จากการหารือเบื้องต้นกับทางหน่วยงานรัฐเพื่อขอปรับเงื่อนไขต่างๆ ในโครงการเอราวัณตามสัญญาPSC ทางภาครัฐก็รับฟัง เข้าใจและเห็นใจ เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เชื่อว่าหน่วยงานรัฐพร้อมให้ความร่วมมือในการปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ

ความคืบหน้าโครงการพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่โมซัมบิกที่ได้หยุดไปหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบว่าในต้นปี2565 โครงการดังกล่าวจะกลับมาก่อสร้างได้อีกครั้ง หลังจากมีกองกำลังร่วมจากกลุ่มประเทศอาฟริกาเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในโมซัมบิก โดยโททาลฯในฐานะผู้ดำเนินการมั่นใจว่าโครงการโมซัมบิกจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนดการเดิมในปลายปี 2467

ทั้งนี้ โรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวของโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน จะประกอบด้วย 2 สายการผลิต (train) มีกำลังการผลิตรวม 13 ล้านตันต่อปีจากแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม

ส่วนเป้าหมายการขายปิโตรเลียมในปี2564 บริษัทได้ปรับเป้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.12แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันต่อวัน เนื่องจากรับรู้ปริมาณการขายปิโตรเลียมจากแปลง61 ที่โอมาน และปีหน้าบริษัทจะปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นพอสมควร เนื่องจากรับรู้ปริมาณการผลิตและจำหน่ายจากโครงการบงกชและแหล่งเอราวัณเพิ่มขึ้น รวมทั้งโครงการที่อัลจีเรีย