“อินเด็กซ์” จัดเต็มอีเวนต์โค้งท้าย อัด 40 ล้าน รวม 7งาน ลุ้น 700 ล้านบาท

“อินเด็กซ์” จัดเต็มอีเวนต์โค้งท้าย อัด 40 ล้าน รวม 7งาน ลุ้น 700 ล้านบาท

  • 0 ตอบ
  • 78 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hanako5

  • *****
  • 1982
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เวลานี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และในไตรมาสสี่ไทยจะกลับมาเปิดประเทศ ทางอินเด็กซ์จึงพร้อมจัดงานอีเวนต์รวมกว่า 7 งาน ภายใต้งบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท โดยไม่รอสปอนเซอร์ แต่เป็นการจอยต์เวนเจอร์กับเจ้าของสถานที่ มั่นใจว่าซื้อหวยออนไลน์รายได้จะทำได้ดีกว่าต้นทุนก็ถือว่าประสบความสำเร็จในสถานการณ์นี้

แผนการจัดงานอีเวนต์ในครั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยดันรายได้ในปี 2564 นี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 64% ขึ้นไป หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 669 ล้านบาท มาจาก 3 ส่วนหลัก คือ 1. มาร์เกตติ้งเซอร์วิส 248 ล้านบาท 2. ครีเอทีฟ บิสิเนสดีเวลลอปเมนต์ 343 ล้านบาท และ 3. โอนโปรเจกต์ 78 ล้านบาท



การจัดงานอีเวนต์ทั้ง 7 งานนั้นจะเป็นรูปแบบอีเวนต์เอาต์ดอร์ประเภท SPORT AND LIFESTYLE แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ 1. อีเวนต์ ACTIVITY PARK, SKATEPARK ในชื่อ สเก็ตนคร, RUNNING EVENT และ SKATE EVENT ซึ่งทั้งหมดจัดขึ้นที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ และ 2. เฟสติวัล ได้แก่ FOREST OF ILLUMINATION ที่คีรีมายา เขาใหญ่, งาน “Thailand International Lantern & Food Festival” เทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ ที่เมืองโบราณสมุทรปราการ และงานเมืองโบราณ ไลท์ เฟส ทั้งนี้ ทุกงานจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป

“แผนการจัดอีเวนต์ในครั้งนี้มีการวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี เดิมตั้งใจจัดขึ้นตั้งแต่ช่วง ก.ย. แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้มีการเลื่อนการจัดงานออกไป จนมั่นใจได้จากแผนการเปิดประเทศ จึงพร้อมทยอยจัดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งหากทุกอย่างคลี่คลายลงก็พร้อมนำเสนออีเวนต์ใหม่ๆอีกหลายงาน” นายเกรียงไกรกล่าว

ทั้งนี้ ภาพรวมอีเวนต์ไตรมาสสี่ปีนี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เชื่อว่าจะทยอยกลับมา ซึ่งอีเวนต์เอาต์ดอร์จะเป็นอีเวนต์แรกที่มาก่อน พร้อมๆ กับการฟื้นตัวของท่องเที่ยว จากนั้นกลุ่มอีเวนต์งานแฟร์จะค่อยๆ ฟื้นตามมา ส่วนกลุ่มงานประชุมสัมมนาน่าจะกลับมาได้ยาก เหตุเพราะปรับไปเป็นประชุมออนไลน์กัน และกลุ่มอีเวนต์เอนเตอร์เทนเมนต์จะกลับมาเป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งการที่อีเวนต์จะกลับมาแบบ 100% ได้นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ที่อยากให้เปลี่ยนมายด์เซตของ ศบค.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ด้วยการให้ค่าของการฉีดวัคซีน จากปัจจุบันคนไทยฉีดวัคซีนไปกว่าครึ่ง จึงควรปลดล็อกมาตรการการเฝ้าระวังต่างๆ เพื่อให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามเดิม ไม่ใช่ยังต้องปฏิบัติตนและเฝ้าระวังเหมือนตอนยังไม่มีวัคซีนแบบช่วงเจอโควิด-19 ใหม่ๆ