กว่าจะเป็นหนึ่งในนักแสดงผู้สวมบทบาท “เจมส์ บอนด์” ที่ได้รับเสียงชมมากที่สุด “แดเนียล เคร็ก” กลับเคยคิดถอนตัวจากบทนี้ เพราะกระแสวิจารณ์ในแง่ลบ ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสภาพจิตใจ และบานปลายไปถึงสภาพร่างกายของเขาด้วย
ในตอนที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า
แดเนียล เคร็ก คือผู้ที่จะมารับบท เจมส์ บอนด์ แทน เพียร์ซ บรอสแนน ได้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเขาไม่คู่ควรกับบทนี้ จนทำให้เขาแทบจะรับกับกระแสวิจารณ์ไม่ได้ และเคยคิดว่าจะถอนตัวมาแล้ว
“ชีวิตของผมได้รับผลกระทบจากชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งตัว ผมแทบจะขังตัวเอง ไม่เจอผู้คน เหมือนอยู่ในความฝัน” เคร็ก บอกในการให้สัมภาษณ์ในสารคดี Being James Bond ที่ออกฉายทาง Apple TV+ “เรื่องนี้กระทบกับผมทั้งทางจิตใจ และร่างกาย ผมไม่ค่อยชอบการมีชื่อเสียงขึ้นมาทันทีทันใดแบบนี้ อยู่อ่านคอมเมนต์จนดึง อ่านทุกอย่าง เพราะอยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และมันก็หนักจริง ๆ หนักมา ๆ มีแต่ความเกลียดชัง”
แต่สุดท้าย แดเนียล เคร็ก ก็ก้าวผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ เพราะความเชื่อมั่นที่ได้อ่านบท และรู้สึกทันทีว่าหนังมันจะต้องออกมาดีแน่ ๆ “จนผมตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน และรู้ทันทีว่าหนังจะต้องออกมาดีแน่ เรากำลังทำอะไรที่พิเศษกันอยู่”
โดย No Time to Die หนัง เจมส์ บอนด์ เรื่องสุดท้ายที่ แดเนียล เคร็ก แสดงน้ำจะมีกำหนดเข้าฉาย พร้อมกันหลายประเทศในปลายเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้ โดยหนังใช้ทุนสร้างสูงถึงเกือบ 300 ล้านเหรียญฯ และถูกเลื่อนฉายหลายรอบเพราะ COVID-19 มาตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งถ้าหนังเข้าฉายไปเรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะมีการประกวดผู้ที่จะได้มารับบทเป็น 007 คนต่อไปตามมาในเร็ว ๆ นี้