เครือออริจิ้นฯบุกตลาดบริหารงานโครงการและงานก่อสร้างNon-residential

เครือออริจิ้นฯบุกตลาดบริหารงานโครงการและงานก่อสร้างNon-residential

  • 0 ตอบ
  • 99 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hanako5

  • *****
  • 1982
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




“ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์” เครือพรีโมและออริจิ้น เร่งเดินหน้าธุรกิจบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง ตอกย้ำคุณภาพระดับมาตรฐานสากล ISO9001-2015 ครึ่งปีหลังบุกประมูลงานควบทำการตลาดกลุ่ม Non-residential projects หวังเพิ่มโอกาสเติบโตทั้งแนวลึกและแนวกว้าง คาดหลัง COVID-19 อสังหาฯฟื้นตัวแรง ภาครัฐติดเครื่องลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-ระบบสาธารณูปโภค หนุนโอกาสกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง เตรียมนำบริษัทตลาดหุ้นกลางปี 2566

ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ UPM ผู้ให้บริการบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้าง ภายใต้บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า หลังบริษัทได้ประกาศเปิดตัวดำเนินธุรกิจรับบริหารงานโครงการ (Project Management) และบริหารงานก่อสร้าง (Construction Management) สานต่อแนวคิด “ORIGIN NEXT LEVEL” สร้างการเติบโตในทุกมิติของเครือพรีโม และออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของภาคการก่อสร้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ล่าสุด บริษัทได้รับความไว้วางใจให้บริหารงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย และโรงแรมขนาดใหญ่ เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นมา บริษัทได้กระจายโอกาสเข้าร่วมประมูลงานออกแบบและควบคุมงานเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าทำการตลาดกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Non-residential Lottovip projects) อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มศูนย์การค้าขนาดกลาง หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีการรีแบรนด์และจำเป็นต้องดำเนินงานก่อสร้างใหม่ ขยายการรับงานทั้งในแนวลึกและแนวกว้าง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์
ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์

“แม้ในช่วงต้นไตรมาส 3 จะมีมาตรการปิดแคมป์คนงานภาครัฐในกรุงเทพฯเป็นเวลา 1 เดือน แต่บริษัทยังคงมั่นใจในศักยภาพของตลาดในอนาคต และมีขีดความสามารถที่เพียงพอจะช่วยเร่งรัดงานในมือให้ยังเสร็จสิ้นได้ตามกำหนด ปัจจุบัน เรายังคงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการบริหารโครงการที่ทยอยเข้าไปบริหารเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563”

ทั้งนี้ ในครึ่งแรกปี 2564 บริษัทมีสัญญาบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้างในมือแล้ว จำนวน 16 โครงการ อาทิ นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง, แฮมป์ตัน ศรีราชา , ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช , Warehouse 22,000 ตร.ม. จำนวน 2 แห่ง บริเวณถนนบางนาตราด กม.19 และ กม.22 โดยมีระยะเวลาควบคุมงานถึงปลายปี 2565

"หากสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นไป การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐ จะกลับมามีบทบาทเข้มข้นในการขับเคลื่อนประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ส่งผลให้ภาคเอกชนเองพิจารณาลงทุนก่อสร้างมากขึ้น บริษัทจึงจะเร่งขยายการบริการออกไปสู่ 6 กลุ่มธุรกิจย่อย เพื่อให้ครอบคลุมทุกงานบริการวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการบริหารโครงการ กลุ่มธุรกิจบริหารงานก่อสร้างโครงการ กลุ่มธุรกิจบริหารงานทรัพยากรกายภาพโครงการ กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการออกแบบ กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการตรวจสอบอาคาร และสิ่งแวดล้อม กลุ่มธุรกิจดูแลอบรม สัมมนา และงานวิจัย

ขณะที่สัดส่วนรายได้ จะมาจากโครงการในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ประมาณ 40% ของมูลค่ารายได้ที่พึงได้รับของการดำเนินงาน และจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ อีกราว 60% เมื่อเติบโตได้ตามแผนงาน บริษัทตั้งเป้าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ ในช่วงไตรมาส 2/2566 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย และคาดว่าภายใน 5 ปี นอกจากบริษัทจะดำเนินงานควบคุมงานก่อสร้างแล้ว ยังมีการกระจายขอบเขตงานเพิ่มขึ้นอย่างครอบคลุมในทุกๆ ส่วนงาน ที่จะให้บริการวิชาชีพด้านวิศวกรรม และด้านสถาปัตยกรรม แบบครบวงจร

ทั้งนี้ บริษัทมีจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง โดยเฉพาะการมีทีมวิศวกรและสถาปนิกมืออาชีพที่การควบคุมคุณภาพการดำเนินงานตามหลักมาตรฐานของญี่ปุ่น ตลอดจนการผ่านการรับรอง ISO 9001-2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล.