จัดไฮบริดทัวร์ปลุกท่องเที่ยว “กาญจน์-ราชบุรี-สุพรรณฯ”

จัดไฮบริดทัวร์ปลุกท่องเที่ยว “กาญจน์-ราชบุรี-สุพรรณฯ”

  • 0 ตอบ
  • 106 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

hs8jai

  • *****
  • 2219
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




หลังจากที่โลกของการเดินทางต้องหยุดนิ่งมานาน อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (โควิด-19) ทำให้นักเดินทางต่างโหยหาประสบการณ์จากการออกไปท่องเที่ยว โดยจากการเก็บข้อมูลจากสื่อโซเชียลในช่วงการ ล็อกดาวน์ระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาพบว่า มีการพูดถึงความต้องการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งกิจกรรมที่ผู้คน “อยากทำ” และพูดถึงมากที่สุดบนโลกออนไลน์ คือ “อยากไปเที่ยว” โดยมีผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมสูงถึง กว่า 3.7 ล้านเอ็นเกจเมนต์

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ท่ามกลางความกังวลใจต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมีความกังวลจึงไม่กล้าออกมาท่องเที่ยว ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหยุดชะงักมาเป็นเวลานาน แม้ว่ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้น แต่ที่ผ่านมายังขาดกิจกรรมที่จะมาช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้สถานการณ์นี้ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงมีแนวคิดพัฒนาการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย มาสร้างสรรค์และพัฒนาเป็นสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในแบบ Virtual Tour 360๐ หรือ ทัวร์เสมือนจริงอย่างเต็มรูปแบบมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากกลับมาเที่ยวซ้ำ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายขึ้น



ไฮไลต์ของ Virtual Tour 360๐ นี้ เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำ VR 360º ทั้งภาคพื้นดิน และบนอากาศ การสร้างสรรค์แมสคอต และของดีประจำจังหวัดมาในแบบโมเดล 3 มิติที่สามารถดูได้รอบทิศ พร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่จะสร้างมิติแห่งการท่องเที่ยวที่ให้มุมมองแบบ 2 แสง คือ กลางวันและกลางคืน ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวก้าวข้ามผ่านมิติ
ของแพลตฟอร์มไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวจริง ได้สัมผัสความงดงาม ตื่นตากับความหลากหลายของสถานที่และวัฒนธรรม บริบทของการใช้ชีวิตของผู้คนในชุมชนในทุกแง่มุม ผ่านดิจิทัลอาย (Digital Eye) ในรูปแบบ World of VR 360º ที่เสมือนยกแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นใน 3 จังหวัดให้มาอยู่ตรงหน้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส

นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า นอกจากนักท่องเที่ยวจะประทับใจแหล่งท่องเที่ยว ยอดนิยมที่หลากหลายแล้วในมุมมองรอบทิศทางแล้ว ยังจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าโอทอปจากผู้ขายในชุมชนได้โดยตรงผ่านแชต Facebook และ Line ได้ด้วย และเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และเข้าถึงช่องทางการสื่อสารของกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ของ Virtual Tour 360๐ ในรูปแบบของ Hybrid Tour ร่วมด้วยได้ และยังสามารถบันทึกภาพความประทับใจระหว่างการท่องเที่ยวได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพาตนเองไปยังสถานที่ นั้น ๆ หรือย้ายสิ่งของจากแหล่งท่องเที่ยวมาอยู่ใกล้ตัวเพื่อเซลฟี่ ก็สามารถทำได้ในคลิกเดียว

“ด้วยเทคโนโลยี VR 360º ที่ผสานกับ 3D AR จะสร้างมิติมุมมองให้ชวนติดตาม จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งของ 3 จังหวัดในกลุ่มการท่องเที่ยวภาคกลางตอนล่าง 1 กลับพลิกฟื้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งการท่องเที่ยวในรูปแบบของ Virtual Tour นี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ช่วยกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง และกระจายลงสู่พื้นที่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง สอดรับกับการท่องเที่ยวในวิถีใหม่ (New Normal) ได้อย่างลงตัว” นางสาวกิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวสรุป