‘เอปสัน’ เดินเกมยึดผู้นำเครื่องพิมพ์ ท้าทาย 'ภาวะตลาดฝืด-กำลังซื้อหด'

‘เอปสัน’ เดินเกมยึดผู้นำเครื่องพิมพ์ ท้าทาย 'ภาวะตลาดฝืด-กำลังซื้อหด'

  • 0 ตอบ
  • 69 อ่าน

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

dsmol19

  • *****
  • 2466
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




“สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อกลไกทั้งหมดของตลาดไอที

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดมุมมอง พร้อมประเมินว่า ความท้าทายครึ่งปีหลังมีทั้งด้านซัพพลาย การขนส่ง สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน รวมถึงการกระจายวัคซีน ฉะนั้นต้องมีความระมัดระวังอย่างมากทั้งด้านการลงทุน การใช้จ่าย และการประคองยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ปัจจุบัน โรงงานผลิตชิพเซ็ตและชิ้นส่วนหลายรายการผลิตไม่ทันตามความต้องการของตลาด บางโรงงานจำเป็นต้องลดหรือหยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดภายใน บวกกับระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศที่ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดภาวการณ์ขาดแคลนสินค้า ซึ่งสวนทางกับความต้องการสินค้าไอทีที่เพิ่มสูงขึ้น

ไอทีไทยยังโต-ลุ้นต่อครึ่งปีหลัง

สำหรับตลาดเครื่องพิมพ์ มีการเติบโตขึ้นทั้งในด้านยอดขายและมูลค่า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเพื่อองค์กรธุรกิจ ที่สามารถตอบโจทย์เวิร์คฟรอมโฮมและสำนักงานแบบไฮบริด ขณะที่ตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ยังมีการเติบโตคงที่ สัดส่วนยอดขายมาจากอิงค์เจ็ท 69% เลเซอร์ 11% และอื่นๆ 20% 


กล่าวได้ว่า เทรนด์ตลาดไอทียังคงถูกขับเคลื่อนด้วยเวิร์คฟรอมโฮม ไฮบริดเวิร์คเพลส เรียนออนไลน์ ที่น่าสนใจขณะนี้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาความยั่งยืนให้ธุรกิจ

บริษัทวิจัยจีเอฟเคระบุว่า ช่วงครึ่งปีแรกเดือนม.ค.-ก.ค.ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา เชิงมูลค่าสินค้าไอทีประเทศไทยยังคงขยายตัว โดยโน้ตบุ๊คเติบโต 14%, เครื่องมัลติฟังก์ชั่น 4%, เครื่องพิมพ์ 21%, สตอเรจ 16%, แท็บเล็ต 48% และจอมอนิเตอร์ 8% ส่วนครึ่งปีหลังเอปสันคาดว่าตลาดไอทีจะทรงตัวหรือเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ไม่มีการเติบโตแบบหวือหวา

“เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนส่งผลกระทบทุกธุรกิจ ทว่าอุตสาหกรรมไอทียังโชคดีที่มีดีมานด์จากเวิร์คฟรอมโฮม เรียนออนไลน์ ทำให้ตลาดยังทรงตัวหรือมูลค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตลาดเครื่องพิมพ์เองก็ได้รับอานิสงส์และยังคงเติบโต โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กและขนาดกลาง”

อย่างไรก็ดี เมื่อมีการคลายล็อกดาวน์น่าจะส่งผลเชิงบวกทำให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจในภาพรวมกลับมาเติบโต


มั่นใจธุรกิจโต 10% ตามเป้า
ผู้บริหารเอปสันเผยว่า การบริหารธุรกิจท่ามกลางช่วงเวลาที่ท้าทาย ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยของพนักงาน การสนับสนุนคู่ค้าและดูแลลูกค้า อีกทางหนึ่งวิกฤติโควิดทำให้เกิดนิวนอร์มอลซึ่งต้องเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสให้ได้ โดยเพิ่มสัดส่วนการขาย การตลาด รวมถึงบริการลูกค้าออนไลน์

เอปสันมั่นใจว่า ผลประกอบการปีนี้จะสามารถเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10% ตามเป้าหมาย สัดส่วนมาจากบีทูบี 30% บีทูซี 70% พร้อมพยายามทำให้สัดส่วนที่มาจากธุรกิจองค์กรเติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายที่มาจากออนไลน์จากปัจจุบันมีอยู่ราว 28% สิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มไปถึงประมาณ 30%

ปัจจุบัน เอปสันยังครองตำแหน่งเจ้าตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ ด้วยส่วนแบ่งในครึ่งปีแรกปีนี้ 46% เพิ่มขึ้นจาก 43% ของช่วงเดียวกันปีก่อน จากการที่ตลาดเครื่องพิมพ์มีการปรับตัวในแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องบีทูบีเอปสันจึงได้นำ “EcoTank” รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อเพิ่มและปรับปรุงไลน์อัพสินค้าในตลาดไทย ทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากเครื่องพิมพ์ที่ใช้ตลับหมึก เครื่องพิมพ์เลเซอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นเล็ก ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ในไทย

ล่าสุด เปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์กลุ่ม “EcoTank” พร้อมกัน 17 รุ่นรวด มาพร้อมเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไร้ความร้อน เพิ่มความคุ้มค่างานพิมพ์ ประหยัดพลังงาน เวลา สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งตอบโจทย์การเวิร์คฟรอมโฮมและออฟฟิศยุคนิวนอร์มอล 

เขากล่าวว่า ปัจจัยการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค หลักๆ จะมาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพงานพิมพ์ ส่วนด้านอื่นๆ ที่รองลงมาคือราคา และการบริการหลังการขาย

“เมื่อรวม 17 รุ่นนี้ จะทำให้เรามีไลน์อัพสินค้ารวม 29 รุ่น ครอบคลุมทั้งเครื่องพิมพ์แบบซิงเกิลฟังก์ชั่น มัลติฟังก์ชั่น รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย ไร้สาย ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคทั่วไปและธุรกิจทุกขนาด”

พร้อมกันนี้ เริ่มทดลองให้บริการนัดหมายล่วงหน้า ซ่อมด่วนภายใน 1 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่จำเป็นต้องใช้เครื่องพิมพ์อย่างเร่งด่วน ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 1 ซึ่งจะเริ่มต้นที่กลุ่มลูกค้าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ก่อนเตรียมขยายไปยังกลุ่มเครื่องพิมพ์ด็อทเมทริกซ์ โปรเจคเตอร์ และสแกนเนอร์ และสุดท้ายจะเปิดให้บริการกับลูกค้าทุกกลุ่มสินค้า ระยะแรกเปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพก่อน และมีแผนจะขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศในอนาคต