ตื่นตาหินรูปร่างแปลกตาที่ 'ดานหินลานมันปลา' อช. ภูผาเหล็ก

ตื่นตาหินรูปร่างแปลกตาที่ 'ดานหินลานมันปลา' อช. ภูผาเหล็ก

  • 0 ตอบ
  • 72 อ่าน

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Prichas

  • *****
  • 2104
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อของ “อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก” มากนัก ซึ่งที่นี่นั้นมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติไม่แพ้ที่ใด จนถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 30 อุทยานแห่งชาติที่ได้รับรางวัลอุทยานแห่งชาติสีเขียว (Green National Parks) ระดับทองมาครอบครอง

โดย “อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก” มีพื้นที่คลอบคลุมหลายอำเภอใน 3 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ จ.สกลนคร จ.อุดรธานี และ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาภูพาน ที่เป็นภูเขาหินทรายที่โดดเด่นในเขตภาคอีสาน และนอกจากจะมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจอีกด้วย

และการที่ตั้งอยู่บนภูเขาหินทรายเช่นนี้ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ของที่ อช. ภูผาเหล็ก นั้น ก็คือที่ "ดานหินลานมันปลา" ลานหินทรายที่มีเนื้อที่ประมาณ 2000 ไร่ โดยที่เรียกว่าดานหินลานมันปลา ก็เพราะว่าในบริเวณนี้เป็นลานหินทรายกว้างขวางและมีต้นมันปลาหรือต้นกันเกราขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง

ไฮไลต์เด่นที่ว่าที่ดานลินนี้ก็คือ หินบริเวณนี้ได้ถูกน้ำกัดเซาะจนเห็นเป็นหินรูปร่างแปลกตา โดยหลายคนอาจมองว่าเป็นรูปช้างกำลังยื่นงวงออกไปหรือไดโนเสาร์กำลังจูบกัน หรือตามแต่จินตนาการตามมุมมองของนักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็น

นอกจากหินไฮไลต์ตรงนี้แล้ว ที่อุทยานฯ ก็ยังมีหินอีกหลายก้อนที่มีรูปร่างแปลกตาอีกหลายจุด อย่าง หินรูปจระเข้ หินที่มองคล้ายหัวสัตว์ หรือหินที่มีทรงแปลกๆ อีกมากมาย

ไม่เพียงแต่ดานหินเท่านั้นที่น่าสนใจ ภายในอุทยานฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกหลายแห่งเช่นกัน เริ่มที่ “น้ำตกเก้าชั้น” เป็นน้ำตกขนาดเล็กลดหลั่นจากยอดเขาภูผาเหล็กเป็นชั้นเล็กๆ ถึง 9 ชั้น และมีอีกสองน้ำตกสวยชวนชมคือที่ น้ำตกแม่คำดีและน้ำตกแก่งกุลา ที่จะมีน้ำมากในฤดูฝนเช่นนี้

และยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุด อย่างที่ “ผาดงก่อ” เป็นหน้าผาสูงอยู่บนยอดผาเหล็กที่เป็นยอดสูงสุดของเทือกเขาภูพาน หากยืนบนภูเขาแห่งนี้จะมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามอยู่ด้านหน้า

หากใครอยากมาชมพระอาทิตย์ขึ้นต้องมาที่ “ผาสุริยันต์” ที่อยู่บนยอดของภูผาเหล็กเช่นกัน ที่นี่เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้สวยงามนและน่าประทับใจ

ส่วนสายดอกไม้แนะนำให้มาที่ “ลานอุษาสวรรค์” จะอยู่บริเวณที่ราบบนยอดภูผาเหล็ก เป็นทุ่งหญ้าป่าที่มีดอกไม้ป่าขึ้นมากมาย เช่น ดอกสารภีดอย เอ็นอ้า ดาวเรืองภู ม้าวิ่ง หญ้าข้าวก่ำ กระดุมเงิน และดุสิตา

รวมถึงมี “ถ้ำทอง” ซึ่งเป็นถ้ำที่มีความแปลกและสวยงามมาก โดยหากยืนอยู่ปากถ้ำแล้วมองเข้าไปในถ้ำ จะเห็นเป็นสีทองอร่ามเหมือนมีทองมาชโลมไว้ และอีกหนึ่งถ้ำสวยชวนเที่ยวก็คือที่ “ถ้ำนกกก” มีสภาพเป็นรูปรอยที่ปรากฏบนผนังถ้ำคล้ายภาพแกะสลักเป็นรูปส่วนหัวของนก ซึ่งมีสภาพเป็นหินสีเหลืองงดงาม ตัดกับสีดำของผนังถ้ำ

ปิดท้ายที่การมาชม “ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์” ที่ผาผักหวาน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นภาพเขียนโบราณ อายุประมาณ 3,600 ปี ระบายด้วยสีแดงทึบอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ เป็นภาพลักษณะคล้ายผู้หญิง ทรงผมกลมโต
และนี่คืออีกหนึ่งอุทยานฯ สวยน่าเที่ยวที่น้อยคนนักยังไม่รู้จัก แต่หากได้ไปเยือนสักครั้ง ต้องประทับใจแน่นอน ซึ่งในขณะนี้ทาง อช. ภูผาเหล็ก ได้เปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก-Phuphalek National Park