ดัชนี‘ดาวโจนส์’ปิดวันจันทร์ (16ส.ค.)ทะยาน 110 จุด โดย
ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่และข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญที่จะทะยอยเผยแพร่ในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 110.02 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 35,625.40 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 11.71 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 4,479.71 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 29.14 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 14,793.76 จุด
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างร่วงลงในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและการเงินปรับตัวลงเช่นกัน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถูกกดดัน หลังจากที่จีนเปิดเผยยอดค้าปลีกชะลอตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ จีนเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกในเดือนก.ค.ขยายตัวเพียง 8.5% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 11.5% และต่ำกว่าระดับ 12.1% ของเดือนมิ.ย.
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) ระบุว่า เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งภัยพิบัติจากน้ำท่วม ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไร้เสถียรภาพ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) และจะเริ่มทำการปรับลดคิวอีในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีในการประชุมดังกล่าว