ธุรกิจท่องเที่ยวเกาะช้างทรุดหนักนักท่องเที่ยวหายแล้ว 90% รร.ขนาดเล็กปิดตัว

ธุรกิจท่องเที่ยวเกาะช้างทรุดหนักนักท่องเที่ยวหายแล้ว 90% รร.ขนาดเล็กปิดตัว

  • 0 ตอบ
  • 97 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Naprapats

  • *****
  • 3225
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




วันนี้ (16 ส.ค.)​ นายสัคศิษฐ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เผยถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด -​19 ระลอก 3 ว่าได้ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะ​การท่องเที่ยวบนเกาะช้าง ที่ในวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 90% 

ส่วนที่เหลือแค่เพียง 10 % ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทีอาศัยอยู่ในประเทศไทย และลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนเท่านั้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการ​โรงแรมยังคงมีเท่าเดิม จนทำให้โรงแรมขนาดเล็ก และรีสอร์ทบางแห่ง รวมทั้งโฮมสเตย์ ต้องปิดตัวไปแล้วกว่า 40% ส่วนที่ปิดอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวเพียง 10-20 คนเท่านั้น



" แม้ในวันนี้จะมีชาวตราด ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียง1,340 คน แต่ด้วยมาตรการของ ศบค.ซึ่งผู้ประกอบการ​ท่องเที่ยวต้องปฎิบัติ​อย่างเคร่งครัดในหลายด้านก็ทำให้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย และล่าสุดสภอุาตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด จึงได้ว ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หามาตรการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวให้ลักลับคืนมาให้ได้เร็วที่สุด "

โดยเฉพาะในวันนี้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวใน อ. เกาะช้างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวไทยแม้จะเดินทางท่องเที่ยวได้แต่ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ ศบค.

“ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด พยายามที่ผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด เร่งสนับสนุนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.เกาะช้าง ให้ได้เกิน 70% ซึ่งก็ได้รับการตอบรับแล้ว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะได้หาวัคซีนเพิ่มจากหน่วยงานอื่นๆซึ่งก็ได้รับมาแล้วอย่างชิโนฟาร์ม"



นอกจากนั้นผู้กอบการยังได้สำรวจจำนวนประชากรแฝงทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าว ชาวต่างชาติ และชาวไทยที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เพื่อจะได้สร้างระบบ”SHA PLASE”ของเกาะช้าง รองรับการเปิดการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้สอดรับกับโครงการ”พัทยา มูฟออนน์”อีกด้วย