วันนี้ (13 สิงหาคม 2564) นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH พร้อมด้วยนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO และนายจรัญ คำเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพิธีมอบเงินให้แก่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนในการจัดหา
ยาฟ้าทะลายโจรให้แก่ผู้ป่วยโควิด -19 โดยมีนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รองประธานโครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยประชาชนในช่วงโควิด-19 เป็นผู้แทนรับมอบผ่านระบบออนไลน์
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH ในฐานะผู้แทนกลุ่ม กฟผ. เปิดเผยว่า กลุ่ม กฟผ. พร้อมเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนในการช่วยเหลือสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างสุดกำลัง ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ การผลิตนวัตกรรมทางการแพทย์ เตียงสนาม รวมถึงจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็นมอบให้แก่ประชาชน
โดยในโอกาสนี้ กฟผ. RATCH และ EGCO ร่วมกันมอบเงินให้แก่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนในการจัดหายาฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล
รวมถึงฟ้าทะลายโจรแบบต้นสดหรือต้นตากแห้งที่จะนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตยาฟ้าทะลายโจรให้แก่ผู้ป่วยโควิด -19 สำหรับนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยและคลัสเตอร์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการระหว่างรอเข้ารับการรักษา และผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้โดยเร็วที่สุด
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รองประธานโครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยประชาชนในช่วงโควิด-19 มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน กล่าวว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินได้ดำเนินการจัดหาฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล ฟ้าทะลายโจรแบบต้นสดและตากแห้ง รวมถึงวัตถุดิบในการผลิตขิงผงที่เป็นยาฤทธิ์ร้อนที่ใช้รับประทานคู่กับยาฟ้าทะลายโจรเพื่อลดอาการข้างเคียง มอบให้แก่ชุมชนแออัด วัด และโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่ม กฟผ.
ซึ่งเป็นองค์กรเสาหลักที่ช่วยเหลือสังคมมาในทุกวิกฤตมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนอกเหนือจากภารกิจด้านพลังงานไฟฟ้าทั้งในยามที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ การดูแลชุมชนสิ่งแวดล้อม ซึ่งการสนับสนุนการจัดหายาฟ้าทะลายโจรในครั้งนี้ของกลุ่ม กฟผ. จะทำให้ยาฟ้าทะลายโจรเข้าถึงประชาชนที่ขาดโอกาสในการรักษาและผู้ป่วยโควิด-19 มากยิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้อยู่ในวงจำกัดอีกด้วย