GPSC กำไรไตรมาส 2/64 เพิ่ม 21% รับรู้รายได้โรงไฟฟ้า-ควบรวมกิจการ

GPSC กำไรไตรมาส 2/64 เพิ่ม 21% รับรู้รายได้โรงไฟฟ้า-ควบรวมกิจการ

  • 0 ตอบ
  • 77 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Prichas

  • *****
  • 2104
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 มีจำนวน 2,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 406 ล้านบาท หรือ 21% เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 

โดยมีสาเหตุหลักจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไชยะบุรี และการรับรู้รายได้บางส่วนจากเงินชดเชยค่าประกันภัยของโรงไฟฟ้าโกลว์พลังงาน ระยะที่ 5 และกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าชธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่า กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ลดลง เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันมีการหยุดชอมบำรุง

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2564 กำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 329 ล้านบาท หรือ17 % โดยมีสาเหตุหลักจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไชยะบุรี และการรับรู้รายได้บางส่วนจากเงินชดเชยค่าประกันภัยของโรงไฟฟ้าโกลว์พลังงาน ระยะที่ 5 และกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่า กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ลดลง

เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ รับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษี จำนวน 436 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ซึ่งส่วนหลักได้รับจากการบริหารจัดการการผลิตและใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน การบริหารส่วนการพาณิชย์ การบริหารจัดการงานจัดซื้อและงานช้อมบำรุงรักษา

บริษัทประเมินว่า เศรษฐกิจไทย ธนาคารแห่งประทศไยคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2564 มีแนน้มขยายตัวร้อยละ 18 เนื่องจากการระบาดระของ COVD-19 ที่ยึดเยื้อและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม แรงกระตุ้นเติมจาก พ.ร.ก. กู้เงินฯ ฉบับใหม่ แผนการจัดหาและการกระจายวัคในของไทยที่คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ตลอดจนสินค้าที่ขยายตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการกลับมาเปิดดำเนินการของกิจกรรมเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยชะลอลงไม่มากนัก และสำหรับปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 3.9โดยยังได้รับเงินสนับสนุนเศรษฐกิจจากภาค
คาดว่า ประเทศไทยะสามารถสร้างระดับภูคุ้มกันหมูได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้นภายในปี 2565

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. มีมติตรึงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) สำหรับการเรียกเก็บถึงธันวาคม 2564 โดยยังคงเรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งทาง กกพ. ให้หตุผลสำหรับการตงค่เอฟทีต่อเนื่องไปอีก 4 เดือน เนื่องจากการของเศรษฐกิจโลกในช่วง 2-3 เดืนที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาก๊าชธรรมชาติเนเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น หากราคาน้ำมันดิบในตตลาดโลกที่พิ่มขึ้นตามปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้นทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้น กกพ. จะจารณาปัจจัยดังกล่าวเพื่อทำให้ค่าไฟามีเสถียรภาพมีความมั่นคง และร่วมขับเคลื่อนตามนโยบายต่างๆของกาครัฐในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ที่ยังคงรุนแรงและขยาย
พื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างยั่งยืน