อัพเดทล่าสุด 'เยียวยาประกันสังคม' นายจ้าง-ลูกจ้าง ม.33 ได้เงินเมื่อไหร่

อัพเดทล่าสุด 'เยียวยาประกันสังคม' นายจ้าง-ลูกจ้าง ม.33 ได้เงินเมื่อไหร่

  • 0 ตอบ
  • 68 อ่าน

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Jessicas

  • *****
  • 2373
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




คืบหน้ามาตรการ "เยียวยาประกันสังคม" รอบใหม่ สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ทั้ง ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 ที่จะทยอยได้รับเงินเยียวยา โดยแต่ละกลุ่มได้เงินไม่เท่ากัน และไม่พร้อมกัน

โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับเงินก่อนเพื่อน คือ "ผู้ประกันตน มาตรา 33" ที่อยู่ใน 9 กลุ่มอาชีพ ใน 10 จังหวัดล็อกดาวน์ ล่าสุด สมาคมธนาคารไทย แจ้งเมื่อ 30 ก.ค.64 ว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะทำการโอนให้ผู้ประกันตนตาม ม.33  ที่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท ในวันที่ 4-6 สิงหาคม 2564 เฉพาะ 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร  นนทบุรี  ปทุมธานี  นครปฐม  สมุทรสาคร  สมุทรปราการ นราธิวาส  ปัตตานี  ยะลา  สงขลา

โดยจะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้วันละ 1 ล้านบัญชี  จากผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยามีจำนวน 2.87 ล้านคน ส่วนนายจ้างจะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล ตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน

ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 33 ใน 3 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ที่ประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติม คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ได้รับเงินเยียวยาในวันที่ 15 สิงหาคม 2564

สำหรับนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง ทุกๆ วันศุกร์ จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2564


ทั้งนี้ นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือนี้ ต้องเป็นผู้ได้สิทธิตามคุณสมบัติ และเงื่อนไข โดย สปส.จะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิบนเว็บไซต์ของ สปส. โดยผู้ประกันตนที่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ  ไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ หรือลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนใหม่

"ผู้ประกันตน" ที่ได้สิทธิและมีบัญชีธนาคาร

แต่ยังไม่ได้ "ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน" หรือ เดิมผูกด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ ให้ไปดำเนินการผูกบัญชีหรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากโทรศัพท์มือถือมาเป็นผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนด้วยตนเอง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่มีบัญชีอยู่ เช่น  Mobile  Application, Internet Banking และเครื่อง ATM  ตามช่องทางที่แต่ละธนาคารให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคาร เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19    


ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ และยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก 

สามารถใช้บริการเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นค่อยลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาดังกล่าว หากมีข้อสงสัยเรื่องการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือช่องทาง ที่สามารถทำได้ สามารถศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ หรือ ติดต่อสอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่ใช้บริการอยู่ 

ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม.33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อนึ่ง หากผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องไปทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร ทางสมาคมธนาคารไทย ขอความร่วมมือผู้ติดต่อใช้บริการ ณ สาขาธนาคาร ในการปฏิบัติตนตามมาตรฐานดูแลความปลอดภัยที่ธนาคารแต่ละแห่งได้กำหนดไว้ เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : สำนักงานประกันสังคม