หลังจากที่เน็ตไอดอลชื่อดัง “พิมฐา” หรือ “พิม ฐานิดามานะเลิศเรืองกุล” โดน
โซเชียลถล่มเละ เหตุมาจากพื้นที่สีแดง แต่ไม่กักตัว ตระเวนไปทั่ว ต่อมาเจ้าตัวพบว่าติดโควิด-19 ทำเอาวุ่นไปทั้งเชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) เจ้าตัวก็รักษาอาการโควิดจนหายเป็นปกติแล้ว
พิมฐาได้โพสต์ไอจี ว่าได้เดินทางไปมอบเงินเยียวยา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด จากกระทำของเธอและเพื่อนสนิท “แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์” ที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ด้วยตนเองเรียบร้อยแล้ว
โดยสาวพิมฐาและครอบครัว ได้แสดงความรับผิดชอบ ที่ทำให้นักศึกษาหลายคน ต้องปรับเปลี่ยนการเรียน เป็นระบบออนไลน์ ด้วยการเข้าพบสมาคมนักศึกษา เพื่อขอโทษและมอบทุนการศึกษาให้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หวังช่วยบรรเทาความเดือนร้อนไม่มากก็น้อย
“วันนี้พิมได้มีโอกาสเข้าไปพบประธานสมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หลังจากได้ทราบข่าวของนักศึกษาหลายท่านที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid 19 และต้องเข้าเรียนในระบบออนไลน์
พิมและครอบครัวรวมถึง ต้องขอขอบคุณทางฝ่ายตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ยอมรับและเข้าใจ และให้โอกาสเราในการร่วมสมทบทุนบริจาคโครงการทุนการศึกษารวม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดสรรเป็นทุนปี การศึกษา2564
และเราทราบดีว่าเราไม่สามารถทดแทนและเยียวยาผลกระทบในวงกว้างได้ทั้งหมดแต่หวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่นักศึกษาหลายท่านต้องเผชิญอยู่ไม่มากก็น้อย ขอบพระคุณค่ะ ”
ส่วนร้านอาหารและค่าเฟ่ ที่ได้รับผลกระทบ ตามรายชื่อที่ปรากฎอยู่ในไทม์ไลน์ เจ้าตัวก็ได้เดินทางไปขอโทษ พร้อมมอบเงินเยียวยาให้ครบหมดทุกร้าน
“หลังจากที่พิมได้รักษาตัวจนหายจากโรค covid19 และได้กักตัวตามที่แพทย์แนะนำจนครบแล้ว พิมและครอบครัวได้แวะไปตามร้านต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบและมอบค่าเยียวยาที่พิมและ @bank_thiti ตั้งใจมอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากพวกเราในครั้งนี้
เราทราบดีว่าไม่อาจเยียวยาในความเสียหายทั้งหมดได้ แต่เราหวังว่าจะช่วยเยียวยาได้ไม่มากก็น้อย
พิมอยากขอบคุณร้านค้าทุกๆ ร้านที่เข้าใจและยอมรับการขอโทษในความผิดพลาดครั้งนี้ของเรา ทางพิมและแบงค์อยากขอโทษอีกครั้ง และพวกเราขอน้อมรับคำติทั้งหมด และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกค่ะ ”
ซึ่งงานนี้หนึ่งในร้านอาหารได้รับการเยียวยา ก็ได้ออกกล่าวถึงพิมฐาและแบงค์ โดยบอกว่าคิดอยู่นาน ว่าจะออกมาโพสต์ดีไหม แต่ตั้งแต่ที่ทราบว่าติดโควิด ครอบครัวของพิมฐา ก็ได้ติดต่อมาช่วยเหลือทุกทาง และขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ได้ขอบคุณทั้งสองคนในฐานะคนดัง แต่อยากขอบคุณในฐานะผู้ป่วยรายที่ 4254 ที่พยายามแสดงความรับผิดชอบ เป็นครั้งแรกที่มีคนมองเห็นและได้ยินเสียงเล็กๆ จำนวนเงินที่มอบให้ทางร้านและพนักงานทุกคน มีค่ามาก เหมือนเป็นการต่อลมหายใจ