ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ลดลง หลังจีนปราบหนักบริษัทเทคโนโลยี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ลดลง รอข้อมูลน้ำมันดิบสหรัฐฯ ส่วน
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 27 ก.ค. 2564 ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 85.79 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 35,058.52 ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 20.84 จุด หรือราว 0.47% ปิดที่ 4404.46 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ดิ่งลง 180.14 จุด หรือราว 1.21% ปิดที่ 14,660.58 จุด
ข่าวแนะนำ
วอลล์สตรีทลดลงในวันอังคาร นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เหตุนักลงทุนกังวลเรื่องการเทขายในดัชนีหุ้น ฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ซึ่งสร้างแรกกดดันให้แก่ตลาดทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทั่วโลก ความกังวลที่หน่วงตลาดหุ้นยังรวมถึง การที่จีนออกกฎให้ผู้ขายอาหารออนไลน์ ต้องจ่ายค่าแรงพนักงานขนส่งอาหารมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ และการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่อาจกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ด้านราคาน้ำมันดิบ ลดลงปานกลาง หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาตลอดทั้งวัน โดยมีปัจจัยหนุนส่งคือ อัตราการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ช่วยคลายความกังวลเรื่องการระบาดของโควิดเดลตา แต่ผู้ค้ายังคงชั่งน้ำหนักในเรื่องแนวโน้มความต้องการพลังงานในอนาคต และกำลังเฝ้ารอการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ก่อน
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนกันยายน ขยับลง 0.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.4% ไปอยู่ที่ 71.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 0.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.44% ไปอยู่ที่ 73.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการลดลงของค่าเงินดอลลาร์ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประกาศนโยบายในวันพุธนี้ โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.03% ปิดที่ 1,799.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์