นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูล
อสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2564 เท่ากับ 127.8 ลดลงร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 และหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลงร้อยละ 0.3 หลังจากที่ไตรมาส 1 ดีขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.3
เมื่อจำแนกตามพื้นที่ โครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนี 126.7 ลดลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สำหรับโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนี 128.7 ลดลงร้อยละ 0.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อนหน้าดัชนีราคาบ้านเดี่ยว กรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 2 มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.0 ลดลงร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ
ลดลงร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อนหน้า ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ กรุงเทพฯ- ปริมณฑล มีค่าดัชนี 129.7 ลดลงร้อยละ 0.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อนหน้า
ผลการเปลี่ยนแปลงแสดงให้เห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ระลอก 3 ถือว่าเป็น “ปัจจัยลบ” สำคัญอที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ผู้ประกอบการกังวลต่อสถานการณ์ โดยพบว่าผู้ประกอบการยังคงใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการลดราคา ควบคู่กับโปรโมชั่นในลักษณะของแถม และการให้ส่วนลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์
จากการสำรวจรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 40.8 เป็นของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ ฯลฯ รองลงมา 32.4 เป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์และ/หรือฟรีค่าส่วนกลาง และ 26.8 เป็นส่วนลดเงินสดขณะที่ในไตรมาสแรก การลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์และ/หรือฟรีค่าส่วนกลางร้อยละ 46.6 รองลงมาคือ การให้ของแถม 32.8 และส่วนลดเงินสด 20.5
สำหรับ ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 เท่ากับ 152.0 จุด ลดลงร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งลดลงต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 3 และลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 0.1
เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่ากรุงเทพฯ มีค่าดัชนี 153.5 จุด ลดลงร้อยละ 0.9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ปริมณฑล มีค่าดัชนี 144.6 จุด ลดลงร้อยละ 0.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 0.5 จากไตรมาสก่อนหน้า
ดัชนีแสดงให้เห็นว่า ราคาห้องชุดใหม่ยังมีทิศทางที่ลดลงเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 นอกจากนั้น กลุ่มผู้ซื้อห้องชุดด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนลดลงจากภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ส่วนผู้ซื้อต่างชาติมีข้อจำกัดในการเดินทางเดิน ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้เคยเป็นกำลังซื้อสำคัญของตลาดอาคารชุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการนำเสนอโปรโมชั่นที่แรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ร้อยละ 50 ใช้รูปแบบของแถม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รองลงมาร้อยละ 28.5 เป็นโปรโมชั่น ส่วนลดเงินและ/หรือการให้เข้าอยู่ฟรีในช่วง 1-2 ปีแรก หรือ ช่วยค่างวดเงินผ่อนกับธนาคาร และร้อยละ 21.5 ปรับเป็นส่วนลดเงินสดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์
ซึ่งจะต่างจากไตรมาส 1 ที่การให้ของแถม มีสัดส่วนร้อยละ 46.1 รองลงมาคือส่วนลดเงินสด 35.1 และส่วนลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ ร้อยละ 18.9
โปรโมชั่นเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถช่วยเร่งรัดการตัดสินใจเกี่ยวการซื้อและการโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อห้องชุดที่ยังมีความสามารถในการซื้อและการขอสินเชื่อ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาห้องชุดใหม่ลดลง และคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
