ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะ
การซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(11 ต.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ1,634.51 จุด ลดลง 4.90 จุด (-0.30%) มูลค่าการซื้อขายราว48,663 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยทำระดับสูงสุด 1,646.50 จุด และระดับต่ำสุด 1,634.17 จุด
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากนักลงทุนยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ และการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกมาช่วงคืนวันพุธ (13 ต.ค.64) ประกอบในวันพุธนี้ยังเป็นวันหยุดของไทยด้วย ทำให้นักลงทุนอยู่ในช่วงของการรอดูสถานการณ์ไปก่อน (wait&see) โดยคาดในช่วงต้นสัปดาห์ วันจันทร์และอังคารนี้ ตลาดฯ น่าจะมีลักษณะของการแกว่งไซด์เวย์ ยังไม่มีทิศทางชัดเจนมากนัก
โดยการลงทุนวันนี้จึงเป็นลักษณะการเข้าลงทุนในหุ้นรายกลุ่ม รายตัว เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งนอกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ก็ยังมีประเด็นของเงินเฟ้อที่เป็นตัวแทนของการป้องกันเงินเฟ้อ รวมถึงหุ้นกลุ่ม Reopening ที่ยังคงLaggard อยู่
ขณะที่ในประเทศ คาดได้รับปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ATK ที่ปรับตัวลดลง จากระดับ 1 หมื่นรายเป็น 2 พันราย ส่งผลดีต่อหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการ Reopening แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯน่าจะยังคงเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน ให้แนวรับ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,660 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่STARK มูลค่าการซื้อขาย2,875.41 ล้านบาท ปิดที่ 4.62 บาท ลดลง 0.68 บาท,KBANK มูลค่าการซื้อขาย2,451.41 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 1.00 บาท,TRUE มูลค่าการซื้อขาย1,806.64 ล้านบาท ปิดที่ 4.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท,BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,800.33 ล้านบาท ปิดที่ 13.60บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท,PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,771.15 ล้านบาท ปิดที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท