หลบเมืองไปอาบป่าที่ "สมดุล" คาเฟ่บำบัดทุกข์ บำรุงท้อง ริมน้ำแม่กลอง

หลบเมืองไปอาบป่าที่ "สมดุล" คาเฟ่บำบัดทุกข์ บำรุงท้อง ริมน้ำแม่กลอง

  • 0 ตอบ
  • 64 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hanako5

  • *****
  • 1982
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




"เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม" คือคำขวัญจังหวัดสมุทรสงครามที่ใครหลายคนทราบกันดี แต่หลังจากไปเยือนสถานที่แห่งนี้ ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่ง "ของดี" เมืองแม่กลองกับ "คาเฟ่มุมมองใหม่" ที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าขนาดย่อม เพราะมากไปกว่าการนั่งกินนั่งดื่มกาแฟ ที่นี่ยังช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงท้องผ่านธรรมชาติ และความอร่อยจากสวนสู่จานที่ "พิเศษ" ไม่เหมือนใคร

เรากำลังพูดถึงร้าน "สมดุล" (Somdul Agroforestry Home) คาเฟ่ริมน้ำแม่กลองที่ช่วยบาลานซ์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติให้อยู่ตรงกลาง ดื่มกินผลผลิตที่มาจากธรรมชาติ ทุกเมนูรังสรรค์ด้วยความใส่ใจ ใช้พลังงานสะอาด แสดงจุดยืนใส่ใจสุขภาพและการอนุรักษ์ไปพร้อมๆ กัน

สำหรับที่นี่ เริ่มต้นมาจากเด็กชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเอแบค 6 คน (เอี่ยม-อติคุณ ทองแตง, เม-เมธาพร ทองแตง, อู๋-บุญชู อู๋, กันต์-กันต์ คงสินทรัพย์, ไอซ์-รังสิมันตุ์ ตันติวุฒิ และเจมส์-พงศกร โควะวินทวีวัฒน์) ซึ่งมีความสนใจในงานด้านอนุรักษ์เหมือนกัน และใช้พื้นที่ที่มีทำการเกษตรแบบพึ่งพาตัวเองจนมาจบที่ "วนเกษตร" นั่นก็คือการเกษตรบนพื้นที่ป่า ก่อนจะขยายมาเป็นศูนย์การเรียนรู้โดยมีร้านกาแฟ และความอร่อยจากสวนสู่จาน เป็นตัวดึงคนให้เข้ามาใช้ชีวิตสมดุลร่วมกัน

เม-เอี่ยม พร้อมด้วยเจ้าบานอฟฟี่
เม-เอี่ยม พร้อมด้วยเจ้าบานอฟฟี่

ดังนั้น ร้านนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ชวนให้ทุกๆ คนมากินดื่มผลผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ ในบรรยากาศสุดฟิน พร้อมๆ ไปกับเรียนรู้ และซึมซับวิถีวนเกษตร ปลูกผักกินเอง โดย "เอี่ยม-อติคุณ และเม-เมธาพร ทองแตง" บอกว่า เรากินในสิ่งที่ปลูกและปลูกในสิ่งที่กิน ทุกเมนูจึงรังสรรค์ขึ้นมาเป็นเมนูเฉพาะ เลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติทั้งจากสวน และเครือข่ายวนเกษตรด้วยกัน

เช่นเดียวกับกาแฟ ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกในระบบ Shade-Grown หรือการปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ ดังนั้นมากกว่ากาแฟที่ให้รสชาตินุ่มลึก และมีมิติแล้ว ยังปลอดภัย ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ความหลากหลายทางชีวภาพก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย







(ซ้าย) Stingless Bee Honey and Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็น+น้ำผึ้งชันโรง ราคา 140 บาท (ขวา) 0.00 AM Coco หรือกาแฟสลัดเย็น+น้ำมะพร้าว ราคา 85 บาท 
(ซ้าย) Stingless Bee Honey and Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็น+น้ำผึ้งชันโรง ราคา 140 บาท (ขวา) 0.00 AM Coco หรือกาแฟสลัดเย็น+น้ำมะพร้าว ราคา 85 บาท

Stingless Bee Honey and Cold Brew คือกาแฟที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอมากๆ แก้วนี้ "เอี่ยม" บอกว่า มี "น้ำผึ้งชันโรง" เป็นตัวชูโรง ซึ่งเขาเป็นคนคิดเมนูนี้ รสชาติต้องบอกว่าไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน เปรี้ยวอมหวาน ให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า กาแฟใช้วิธีการชงแบบ Cold Brew Coffee คือขบวนการที่แช่กาแฟบดในน้ำอุณภูมิปกติหรือน้ำเย็นในระยะเวลาที่นาน กาแฟที่ได้จะมีความหวาน และแทบไม่มีความขมอยู่เลย คนที่ไม่เคยดื่มกาแฟสามารถดื่มได้อย่างลื่นคอ

ดื่มกาแฟจนชื่นคอชื่นใจแล้ว มาต่อกันที่สลัดในชื่อ "Somdul Salad Season 1" เป็นสลัดออร์แกนิกที่หากินที่ไหนไม่ได้ ผักสลัดปลูกเอง เช่น เรดโอ๊ค, กรีนโอ๊ค, ฟินเลย์ และบัตเตอร์เฮค ส่วนน้ำสลัดเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน มีเลม่อนจากสวนพสุธารา จ.ราชบุรี และน้ำผึ้งชันโรงที่เลี้ยงไว้ในสวนเป็นตัวชูโรง นำมาคลุกเคล้ากินกับผักชนิดต่างๆ แล้ว อร่อยเปรี้ยวหวานลงตัวสุดๆ

สลัดออแกนิก+น้ำสลัดสูตรพิเศษ (Somdul Salad Season 1) ราคา 95 บาท
สลัดออแกนิก+น้ำสลัดสูตรพิเศษ (Somdul Salad Season 1) ราคา 95 บาท

โรตีห่อสลัดซีซ่าไก่ ราคา 100 บาท
โรตีห่อสลัดซีซ่าไก่ ราคา 100 บาท

อีกเมนูที่ต่อยอดจากสลัดคือ "โรตีห่อสลัดซีซ่าไก่" ทางร้านนำสลัดซีซาร์ Homemade ปราศจากความเลี่ยน มาคลุกเคล้ากับสันในไก่ต้มลีนๆ ห่อกับแป้งโรตีที่ย่างไว้แล้วแน่นๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดรสสัมผัสเนียนนุ่ม เติมเต็มจานนี้ให้อร่อยยิ่งขึ้น

เมนูข้าว ต้องยกให้พระเอกจานนี้ "ข้าวผัดกะเพราปลาทู" ทางร้านเลือกใช้ปลาทูแม่กลอง ของดีท้องถิ่นที่เนื้อแน่น มัน อร่อย เอามาผัดใส่กะเพราแดงที่ปลูกในสวนผักอินทรีย์ ให้ความหอมเย้ายวนและเด่นชัด นับเป็นความอร่อยที่อยากแนะนำให้ไปลอง

ข้าวไก่ทอดซอสเขียวหวาน ราคา 120 บาท
ข้าวไก่ทอดซอสเขียวหวาน ราคา 120 บาท

รองลงมาเป็น "ข้าวไก่ทอดซอสเขียวหวาน" เน้นวัตถุดิบโฮมเมด และผักอินทรีย์ที่ปลูกเองเกือบทั้งหมด รสชาติถึงเครื่องแกง อร่อยไม่ซับซ้อน เช่นเดียวกับเมนูง่ายๆ "ข้าวไข่ข้นแฮมเบค่อน" หอมนุ่มละมุนลิ้น ไข่ไก่ที่ใช้เป็นไข่ไก่อินทรีย์เก็บสดๆ จากฟาร์มแม่ไก่อารมณ์ดี นำทำปรุงรสทำอาหารยิ่งอร่อย จานนี้โรยด้วยเบค่อนกรอบๆ กับแฮมสโมคอ่อนๆ กินได้เพลินๆ ไม่มีเบื่อ

ข้าวไช่ข้นแฮมเบค่อน
ข้าวไช่ข้นแฮมเบค่อน

สปาเก็ตตี้หอยลายโหระพา ราคา 150 บาท
สปาเก็ตตี้หอยลายโหระพา ราคา 150 บาท

ถ้าใครชอบกินเผ็ด ต้อง "สปาเก็ตตี้หอยลายโหระพา" ทางร้านคัดหอยลายสดใหม่ ตัวใหญ่ๆ ล้างด้วยความละเมียดละไม สะอาด ไม่มีกลิ่นคาว โดยวิธีการทำนั้น จะนำหอยทั้งแบบที่ติดเปลือก และเนื้อที่แกะแล้ว ลงไปผัดกับเส้นสปาเก็ตตี้ และใบโหระพา เอาให้พอสะดุ้งไฟแรงๆ ถึงจะเผ็ดร้อนแต่อร่อยถึงใจ ตัวเส้นก็เหนียวหนึบกำลังดี

ไอศกรีมโฮมเมด
ไอศกรีมโฮมเมด

ส่วนเมนูของหวาน ที่นี่เด่นเรื่อง "ไอศกรีมโฮมเมด" ทำเองเกือบทุกรสชาติ บางรสชาติอย่าง "ไอศรีมกะทิ" การันตีความสดใหม่ ใช้มะพร้ามอินทรีย์เก็บสดจากสวน "เก็บเช้า คั้นเช้า แล้วปั่นบ่ายในวันนั้นเลย" เนื้อไอศกรีมกะทิเป็นเจลาโต เนียนนุ่ม และเหนียวกำลังดี ส่วนอีกตัวเป็นไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอม ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมล้วนๆ ได้ความสดใหม่ที่ทางร้านกล้าพูดได้เลยว่า หาสดกว่านี้ยาก นอกจากนั้นยังมีหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง หอมอร่อยชื่นใจไม่แพ้กัน

บานอฟฟี่คาราเมลโฮมเมด ราคา 120 บาท
บานอฟฟี่คาราเมลโฮมเมด ราคา 120 บาท

ปิดท้ายกันที่ "บานอฟฟี่" เมนูขายดี รสชาติไม่หวานมาก ฐานคุกกี้อบกรอบกับช็อกโกแลตกานาจชั้นดี กินพร้อมกับกล้วยหอมและซอสคาราเมลโฮมเมด ส่วนเนื้อครีมละมุนมาก อร่อยชุ่มฉ่ำฟินๆ แบบไร้ไขมันทรานส์ ไม่มีเนยขาว ไม่มีมาการีน

อย่างไรก็ดี นอกจาก "บานอฟฟี่" ในชื่อของหวานแล้ว ทางร้านยังมีสิ่งมีชีวิตอันเป็นที่รักของลูกค้าในชื่อเดียวกันก็คือ "เจ้าบานอฟฟี่" สุนัขนักบำบัดที่เสมือนพนักงานต้อนรับในโซนคาเฟ่ ผ่านหลักสูตรสุนัขบำบัดแห่งประเทศไทย หรือ Therapy Dog Thailand ไม่แปลกที่จะกลายเป็นที่รักของคนทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ กลายเป็นเซเลปที่แย่งซีนภาพอาหารและเครื่องดื่มไปเลยทีเดียว