“พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์” เขย่าตลาด เปิดตัว Prisma SASE

“พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์” เขย่าตลาด เปิดตัว Prisma SASE

  • 0 ตอบ
  • 71 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Prichas

  • *****
  • 2104
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




ตลาดโซลูชัน Secure Access Service Edge (SASE) สั่นสะเทือน เมื่อ “พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์” เปิดตัว Prisma SASE ด้วยฐานะโซลูชันที่บวกความสามารถด้านระบบเครือข่ายและความปลอดภัยเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดให้พนักงาน มีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G ในตัว เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงการทำงานของสำนักงานสาขาสู่ดิจิทัล

นายอานันด์ ออสวาล รองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไฟร์วอลล์ในรูปแบบบริการแพลตฟอร์ม (Firewall as a Platform) พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด และองค์กรต่างๆ ต้องการโซลูชันที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้แอปพลิเคชันทั้งหมดที่พนักงานใช้บนเครือข่ายองค์กร ไม่ว่าจะทำงานจากทางไกล จากมือถือ หรือจากสำนักงาน

“Prisma SASE เป็นระบบการให้บริการที่กระจายอยู่บนคลาวด์ เพื่อให้ได้โซลูชัน SASE ที่สมบูรณ์ที่สุดในตลาด ทำให้องค์กรสามารถปรับขนาด และรักษาความปลอดภัยให้พนักงานแบบไฮบริดได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้งาน”

พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ กล่าวถึงการประกาศรอบนี้ว่าเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมเพิ่มเติมบน Prisma SASE ซึ่งผนวกคุณสมบัติ Prisma Access และ Prisma SD-WAN ไว้ด้วยกันพร้อมบริการบนคลาวด์ โดยเคลมว่าบริษัทฯ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และ SD-WAN รุ่นใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้องค์กร รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานสาขา โฮมออฟฟิศ และจากนอกสถานที่ทำงาน

ที่ผ่านมา พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม SASE หรือบริการเข้าถึงเครือข่ายเอดจ์ด้วยความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับ มีลูกค้า SASE เกือบ 2,500 ราย และล่าสุด การเปิดตัวนวัตกรรมเพิ่มเติมสำหรับ Prisma SASE รวมถึง SD-WAN ที่มี 5G ในตัวจะเป็นตัวเร่งการปรับใช้ SASE ไปยังสำนักงานสาขา และการบริหารจัดการประสบการ์ดิจิทัลอัตโนมัติ (ADEM - Autonomous Digital Experience Management) เพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานไม่ว่าจะทำงานจากที่ใดก็ตาม

จากรายงานสถานะความปลอดภัยจากการทำงานแบบไฮบริด ประจำปี 2021 (State of Hybrid Workforce Security 2021) ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า 61% ขององค์กรต่างประสบปัญหาในการจัดเตรียมระบบรักษาความปลอดภัยระยะไกลที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนความสามารถในการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเร่งความต้องการในการใช้งาน SASE เพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย การเชื่อมต่อ และประสิทธิภาพการทำงานเพื่อรองรับการทำงานแบบไฮบริดให้คนทำงาน

สำหรับความสามารถใหม่บน Prisma SASE ประกอบด้วย การรวม SKU แบบใหม่ ทำให้ลูกค้านำ SASE มาใช้ได้ง่ายขึ้น Prisma SASE ผนวกคุณสมบัติต่างๆ ไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย การเข้าถึงเครือข่ายแบบ Zero Trust (Zero Trust Network Access (ZTNA)) เว็บเกตเวย์ที่ปลอดภัยบนคลาวด์ (Cloud Secure Web Gateway (SWG)) ระบบเชื่อมต่อองค์กรไปยังคลาวด์ (Cloud Access Security Broker (CASB)) ไฟร์วอลล์ในรูปแบบบริการ (Firewall as a Service (FWaaS)) และ SD-WAN ไว้เป็นโซลูชันเดียว

ในโซลูชันยังมีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อม 5G ในตัว (ION 1200) ทำให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อ 5G WAN ไปยังเครือข่ายสาขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน Prisma SASE รวมถึงความสามารถในการเรียกใช้อินเทอร์เฟซ 5G WAN แบบแอ็กทีฟ แอ็กทีฟ สำหรับการสำรองการบริการของระบบเครือข่าย

มีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G ในตัว
มีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G ในตัว

ที่สำคัญคือการรวม CloudBlades ใหม่ รวมถึง ServiceNow, Microsoft Teams และ Zoom เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อการทำงานแบบไฮบริด CloudBlades เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรสามารถผสานรวมบริการคลาวด์ต่างๆ เข้ากับโซลูชัน Prisma SASE ผ่าน API

ร่วมกับการจัดการประสบการณ์ดิจิทัลอัตโนมัติ หนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม (Autonomous Digital Experience Management) การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลใหม่สำหรับผู้ใช้งานและสำนักงานสาขาทั้งหมดบน Prisma SD-WAN (เปิดตัวช่วงต้นปี 2564 นี้ สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์พกพาใน Prisma Access) พร้อมให้ผู้บริหารระบบสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน และการตรวจสอบทราฟฟิกผู้ใช้งาน

ภายในยังมีระบบความปลอดภัยสำหรับเว็บเกตเวย์บนคลาวด์ (Cloud Secure Web Gateway) ซึ่งผสานรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ ทำให้การกำหนดค่าแบบใหม่ และกฎการรักษาความปลอดภัยเว็บที่ใช้งานได้ง่ายมาก พร้อมคำแนะนำที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของพนักงานในการทำงานแบบไฮบริด

บ็อบ ลาลิเบอร์เท นักวิเคราะห์อาวุโสของ ESG กล่าวว่า องค์กรต่างๆ กำลังปรับใช้แอปพลิเคชันในดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์สาธารณะ และการใช้งานบน Edge เพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้าน องค์กร หรือสถานที่ห่างไกล สภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการกระจายตัวสูงเหล่านี้เป็นปัจจัยในการผลักดันความต้องการการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ทั้งนี้ การวิจัยของ ESG ระบุว่า สิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับเครือข่ายองค์กร ในปี 2564 นี้ คือ โซลูชันเครือข่ายที่มีสถียรภาพและมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

"Prisma SASE จากพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ ด้วยโซลูชันการเข้าถึงที่ปลอดภัยบน Edge ครอบคลุมบริการต่างๆ ประกอบด้วย ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบเครือข่าย และการจัดการประสบการณ์ดิจิทัล รวมถึงความสามารถในการใช้ประโยชน์จากแวนไร้สาย เครือข่าย 5G แบบแอ็กทีฟที่ใช้งานพร้อมการทำสำรองของผู้ให้บริการในอุปกรณ์ ION-1200 รุ่นใหม่ คุณสมบัติใหม่เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์”

นอกจากนี้ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ จะเป็นเจ้าภาพจัดการ SASE Converge การประชุมสุดยอดชั้นนำสำหรับ SASE ในวันที่ 28-29 กันยายน เพื่อหารือเกี่ยวกับ Prisma SASE กรณีการใช้งานของลูกค้า และอื่นๆ ก่อนจะวางจำหน่าย Prisma SASE ทั่วโลกในวันที่ 30 กันยายน และ ION 1200 จะวางจำหน่ายในวันที่ 31 ตุลาคม ส่วนคุณสมบัติด้าน CloudBlades, ADEM และ Cloud SWG พร้อมใช้งานทั่วโลกแล้ว