ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในวันจันทร์(30ส.ค.) ขณะที่แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งกำลังประเมินความเสียหายจากเฮอร์ริเคนไอดา ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานและทองคำปรับลด ยังคงได้แรงหนุนจากจุดยืนของที่ประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ ปิดที่ 73.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันสัญญาสหรัฐฯปิดเหนือ 69 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากบรรดาผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ต้องระงับกำลังผลิตน้ำมันดิบราว 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ก่อนเข้าที่เฮอร์ริเคนไอดาจะคืบคลานเข้ามา อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าแท่นขุดเจาะเหล่านี้ค่อยๆกลับเข้าสู่ปฏิบัติการอีกครั้ง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(30ส.ค.) ปิดผสมผสาน แต่เอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเฟดดูเหมือนไม่เร่งรีบตีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬาร และได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน
ดาวโจนส์ ลดลง 55.96 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,399.84 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.42 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,528.79 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 136.39 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,265.89 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้แรงหนุนจากความเห็นอะลุ้มอล่วยของที่ประชุมประจำปีเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและคลายกังวลเกี่ยวกับการลดระดับกระตุ้นทางการเงินอย่างทันทีทันใด
นอกจากนี้แล้วเอสแอนด์พี 500 และแนสแดคยังได้แรงหนุนเพิ่มเติม จากความเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่หันเข้าถือครองหุ้นกลุ่มทเคโนโลยี ด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่เติบโตสูงมาก มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากความคาดหมายว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากมูลค่าของพวกเขาขึ้นอยู่กับผลประกอบการในอนาคตเป็นสำคัญ
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดให้ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ในวันจันทร์(30ส.ค.) ปิดลบพอสมควร โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 7.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,812.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)