ททท.ผนึก'ขายหัวเราะ'โหมโปรโมทท่องเที่ยวตราด

ททท.ผนึก'ขายหัวเราะ'โหมโปรโมทท่องเที่ยวตราด

  • 0 ตอบ
  • 84 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Joe524

  • *****
  • 2320
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




ททท.ปิ๊งไอเดียดึงการ์ตูนโปรโมท "ท่องเที่ยวตราด" เปิดตัว "เกาะขายหัวเราะ" ปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่ เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวหลังโควิดคลี่คลาย

นับถอยหลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะไต่ระดับฟื้นตัว เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ค่อยๆ คลี่คลาย ระหว่างนี้นับเป็นช่วงสำคัญในการเร่งเตรียมความพร้อม! สำหรับการเปิดเมืองรองรับการเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง

"โลกของการเดินทางต้องหยุดนิ่งมานานนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ล้วนโหยหาความสุขจากการเดินทาง ขณะเดียวกันการบูรณาการแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวรับวิถีใหม่ Next Normal ที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น และการสร้างแลนด์มาร์คใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญ" 

อิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด กล่าวว่า  วิกฤติโรคระบาดโควิด ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ บางรายต้องหยุดกิจการชั่วคราว บางรายเลิกกิจการ และอีกจำนวนมากเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่ต้องหยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรม ซึ่ง ททท. ต้องเร่งฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว

ประเมินว่า วิกฤติการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 น่าจะเริ่มคลี่คลายในเร็ววัน และเริ่มเดินทางมากขึ้นในไตรมาส 4 นี้ 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ต้องเร่งปรับตัวด้วยการพัฒนาสินค้าและบริการ เพิ่มคุณค่าและมูลค่าด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงภายใต้วิถีปกติใหม่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้ฟื้นคืนกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมบนพื้นฐานของปลอดภัยและความยั่งยืน

ขณะที่การท่องเที่ยวกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุควิถีปกติใหม่ ​นักท่องเที่ยวจะนิยมการเดินทางท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและประสบการณ์แสวงหากิจกรรมการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ท่องเที่ยวและผลลัพธ์ในระยะยาวที่ยั่งยืน มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น นักท่องเที่ยวจะมีความยืดหยุ่นและหลากหลาย เน้นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยด้านสุขอนามัยคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเที่ยวยุคใหม่ 


อย่างไรก็ดี ททท. สำนักงานตราด ได้เล็งเห็นหนึ่งในทำเล “แลนด์มาร์ค” และปิ๊งเป็นไอเดียจากความเข้ากันของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราด จาก “ภาพจำของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ” ที่แฟนการ์ตูนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดตราดได้พบกับเกาะแห่งหนึ่ง!  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกาะนกนอก เชื่อมมาจากเกาะนกใน และเกาะกระดาด 

เกาะนี้จะมีจังหวะที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาในช่วงน้ำลด ทำให้เห็นพื้นที่เกาะเล็กน้อยและมีต้นตะบันขึ้นอยู่เพียงโดดๆ เพียงต้นเดียว ทำให้มีลักษณะเหมือนแก๊กติดเกาะของการ์ตูนขายหัวเราะ ทำให้นักท่องเที่ยวพากันเรียกเกาะนี้ว่า "เกาะขายหัวเราะ" จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดตราดในที่สุด

เป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง ททท.สำนักงานตราด เทียบเชิญ “ขายหัวเราะ” มาร่วมส่งเสริมโปรโมทเกาะแห่งนี้ในนาม “เกาะขายหัวเราะ” อย่างเป็นทางการ

"เรามีความตั้งใจที่จะร่วมมือกันตั้งรับ ฟื้นฟู และส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของตราด เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และรองรับการดำเนินโครงการ เกาะช้าง Together ต่อไป"

​การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวโดยร่วมกับหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะที่มีผู้อ่านทุกช่วงอายุ ทุกกลุ่มอาชีพ นับเป็นมิติใหม่ที่นำภาพของการ์ตูนมาคู่กับแหล่งท่องเที่ยวที่จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวในบริเวณนี้เป็นที่รู้จักได้อย่างกว้างขวาง รวดเร็ว ทั้งช่วยสร้างบุคลิก คาแรคเตอร์ หรือภาพจำ ในบรรยากาศการท่องเที่ยวเต็มไปด้วยความสนุกสนาน อารมณ์ดี  มีความสุขเมื่อได้มาเยือน รวมถึงเป็นการตอกย้ำว่า “เกาะขายหัวเราะ” มีอยู่จริงที่จังหวัดตราด เป็นการเชื่อมโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกของการ์ตูนที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน

เกาะขายหัวเราะ จะยังช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปเกาะอื่นๆ อาทิ เกาะหมาก เกาะกระดาด เชื่อมโยงให้เกิดเส้นทางสร้างรายได้ลงสู่พื้นที่นั้นอย่างทั่วถึง


พิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป กล่าวต่อว่า การ์ตูนสามารถใช้เป็นเครื่องมือได้ทั้งในโลกจริง และโลกเสมือน! 

“การผูกเรื่องราวและภาพลักษณ์ของคาแรกเตอร์กับการท่องเที่ยวในมิติต่างๆ สามารถทำได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม การมุ่งสร้างองค์ความรู้เพื่อนักท่องเที่ยวทั่วไปหรือเฉพาะกลุ่ม การเล่าด้วยการ์ตูนก็ทำได้อย่างไม่ยัดเยียด ประสบการณ์ที่มีความสัมพันธ์กับคาแรกเตอร์ เรื่องเล่าวัยเยาว์ ล้วนทำให้เกิดมิตรภาพและความประทับใจ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วจากแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลกว่า การ์ตูนและคาแรกเตอร์ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีและเข้าถึงกับผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย”

จะเห็นว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นต้นแบบแห่งการใช้การ์ตูนและคาแรกเตอร์มาโปรโมทสารพัดสิ่ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมท้องถิ่นของญี่ปุ่น มีการต่อยอดรูปแบบใหม่ๆ ออกไปอยู่เรื่อยๆ 

เช่นเดียวกับประเทศไทยกับมิติใหม่ของการท่องเที่ยวไทยด้วยการใช้พลังการ์ตูน และ soft power มาสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และแปลกใหม่ 

"แคมเปญเกาะขายหัวเราะ จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญทั้งกับขายหัวเราะและโอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งในอนาคต อาจจะมีรูปแบบใหม่ออกมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ใหม่ๆ รูปแบบ storytelling ที่ต่างไปจากเดิม หรือการทำแคมเปญ ที่ไม่จำกัดรูปแบบ เหมาะกับเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคต ที่นักท่องเที่ยวต้องการมีประสบการณ์ร่วมกับเรื่องราวท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบและเชิงลึกมากขึ้นด้วย”


ขายหัวเราะในฐานะ “สำนักการ์ตูนไทย” มี DNA จุดเด่นเฉพาะตัว คือ ความถนัดในการใช้สื่อการ์ตูนเล่าเรื่องได้ทุกเรื่อง และความเข้าใจเชิงลึก (insight) รสนิยมความบันเทิงสนุกสนานและวัฒนธรรมแบบไทยๆ นำมาต่อยอดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อีกหลากหลายแนวทาง เรียกว่า ใช้ความถนัดในด้านการ์ตูน คาแรคเตอร์ อารมณ์ขัน และ storytelling มาเป็นสื่อและสร้างกิมมิกในการพัฒนา Content และออกแบบ Content Marketing รูปแบบแคมเปญที่สนับสนุนต่อยอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมสร้างการรับรู้ว่าเกาะขายหัวเราะที่ทุกคนคุ้นเคยจากแก๊กการ์ตูนและปกขายหัวเราะนั้นมีอยู่จริง เป็นการเชื่อมโยงจินตนาการและความสนุกด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ประเทศไทยกำลังบมุ่งหน้าสู่ระยะฟื้นฟูประเทศ “ขายหัวเราะ” จะมีส่วนร่วมในการนำตัวละครในการ์ตูนมาสนับสนุนภาคเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่ง “การ์ตูนไทย” ถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมประเภทหนึ่งซึ่งสามารถสร้างภาพลักษณ์เชิงบวก เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ผลักดันให้ขยายตัวเป็นสินค้าและบริการเชิงพาณิชยกรรม และยกระดับเป็นเครื่องมือสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากทุนวัฒนธรรม จากพลังการ์ตูน! ที่ยังมีกองทัพตัวการ์ตูนอีกมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทุกๆ คน