'ภากร' ระบุตลาดหุ้นไทยรองรับผลโควิด-19 ได้ดี เผย 6 เดือนแรกยอด IPO พุ่ง-วอลุ่มสูงขึ้น

'ภากร' ระบุตลาดหุ้นไทยรองรับผลโควิด-19 ได้ดี เผย 6 เดือนแรกยอด IPO พุ่ง-วอลุ่มสูงขึ้น

  • 0 ตอบ
  • 82 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

luktan1479

  • *****
  • 3464
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงานไทยแลนด์โฟกัส 2021 โดยระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลาดทุนไทยได้พิสูจน์ความคงทนด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดหลายระลอก แม้ว่าจะมีการระบาดอย่างกว้างขวาง แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังสามารถประสบความสำเร็จได้

ตลาดหุ้นไทยมีการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนมาก โดยในปี 63 ที่ผ่านมา มีมูลค่าของ IPO ทะลุ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการจัดอันดับใน 10 อันดับแรกของโลก ในขณะเดียวกัน ยังเป็น 5 อันดับแรกของเอเชียและเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการนำเสนอขายหุ้น IPO อย่างคึกคัก โดยมูลค่าหุ้นที่นำออกมาเสนอขายพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีสภาพคล่องสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน โดยมูลค่าการซื้อขายต่อวันพุ่งขึ้นมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากฐานของผู้ลงทุนที่มีความหลากหลาย และมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยจำนวนมากเป็นผู้นำในการดำเนินนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้รับรางวัลและคำชมเชยหลากหลาย บริษัทที่จดทะเบียนใน SET ได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นปัจจัยหนึ่งในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) นับเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียน และเมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ในอาเซียนที่สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs)

นายภากร กล่าวอีกว่า เพื่อให้สามารถก้าวหน้าต่อไปได้อีก ตลท. จึงเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นไปสู่ 'next normal' หรือยุคหลังการระบาดของโควิด-19 โดยการรับเอาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ เข้ามาใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถเชื่อมโยงได้กับตลาดทุนระดับโลกต่างๆ มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในด้านต่อไปนี้

1.แพลตฟอร์มข้อมูลการพัฒนาแบบยั่งยืน (ESG data platform) ตลท.ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลออนไลน์ ซึ่งมีการจัดสร้างรูปแบบข้อมูลทั้งหลายอยู่เพื่อแสดงและเปรียบเทียบข้อมูลด้านความยั่งยืนสำหรับนักลงทุนและผู้ใช้อื่นๆ อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่การเปิดเผยข้อของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

2.แพลตฟอร์ม Golbal Product หรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับตลาดทุนไทย เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนโลก SET ได้พัฒนาการออกผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มการซื้อขายเพื่อเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนในตลาดนอกประเทศโดยผ่านกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) และตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) แพลตฟอร์มนี้จะทำให้ทั้งตัวกลางและลูกค้าสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศโดยผ่านตลาดภายในประเทศ

3.โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล SET จะเดินหน้าปรับปรุงด้วยการเพิ่มบริการใหม่ๆ โดยร่วมมือกับผู้เล่นรายสำคัญเพื่อสามารถให้บริการได้ดีกว่าเดิมโดยผ่านบริการออนไลน์ อย่างเช่น การประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-AGM) การออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ (e-proxy voting) และการทำความรู้จักลูกค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ในกระบวนการนี้ SET จะนำเอาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในปี 65 ซึ่งจะทำให้บรรดาธุรกิจใหม่และนักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนทางเลือกหลากประเภท

'การดำเนินธุรกิจและการลงทุนแบบยั่งยืน การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และการเชื่อมโยงในประเทศเข้ากับภูมิภาคและระดับโลก เป็น 3 ยุทธศาสตร์หลักที่ ตลท. ใช้เพื่อต่อยอดความสำเร็จของปัจจุบัน' นายภากร กล่าว