นาย ประศาสน์ ตั้งมติธรรม กรรมการ บริษัท
ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และผู้ดูแลโครงการในประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในภาวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงสั่นสะเทือนเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยและส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาพรวม แต่ผลประกอบการจากการลงทุนในประเทศออสเตรเลียกลับมีผลประกอบการดี โดยครึ่งปีแรกของปี 2564 ตัวเลขยอดสัญญาและยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการศุภาลัยในออสเตรเลียเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563
โดยยอดสัญญาครึ่งปีแรกของปี 2564 คิดเป็น 3,525.9 ล้านบาท เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2563 อยู่ที่ 561.5 ล้านบาท โดยศุภาลัยมีโครงการที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯ อย่างสูงถึง 3 โครงการจากทั้งหมด 11 โครงการ คือ Balmoral Quay, New Haven และ Katalia และคาดหวังว่าทั้ง 3 โครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อกิจการของบริษัทฯในประเทศออสเตรเลียต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 และปี 2565
โครงการ Katalia เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บมจ.ศุภาลัย กับบริษัท Stockland ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย โครงการนี้มีทุนเรือนหุ้นประมาณ 2,500 ล้านบาท เพิ่งเปิดขายไปเมื่อไตรมาส 4 ของปี 2563 และสามารถทำยอดขายในอัตราต่อเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของออสเตรเลีย
นาย ประศาสน์ กล่าววว่า ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งปีแรกของปี 2564 มีมูลค่า 1,726.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 อยู่ที่ 767.6 ล้านบาท โดยโครงการ Gen Fyansford ซึ่งจัดสรรที่ดินบนทำเลเหมืองหินปูนเดิม ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเมือง Geelong ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Melbourne มียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด บมจ.ศุภาลัยเชื่อมั่นว่าโครงการต่างๆในประเทศออสเตรเลียจะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในด้านรายได้ที่จะทำให้บริษัทฯบรรลุเป้าหมายด้านผลประกอบการที่ตั้งเอาไว้ในปี 2564 นี้