เปิดบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ชี้ว่าเฟดกำลังสำรวจกับดักของนโยบาย
ดอลลาร์ดิจิทัลก่อนจะปล่อยรายงานเรื่องนี้ออกมา
คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐจะออกรายงานที่ผู้คนตั้งตารอคอยอย่างมากในเร็ว ๆ นี้เพื่อสำรวจศักยภาพการนำเงินดอลลาร์ดิจิทัลไปใช้ แต่ผู้ว่าการและผู้กำหนดนโยบายอื่นๆ ยังเสียงแตกในประเด็นนี้ - และมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมการเงิน - เฟดจึงมีแนวโน้มที่จะแสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง
ด้วยความกังวลว่าการผงาดขึ้นมาของคริปโตเคอร์เรนซี่อาจทำให้อำนาจของธนาคารต่างๆ ในการยึดกุมระบบเศรษฐกิจอ่อนแอลง ธนาคารกลางทั่วโลกตั้งแต่จีนไปยังยุโรปกำลังสำรวจการออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง (CBDCs) และเฟดอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเพื่อไล่ตามธนาคารแห่งอื่นๆ ให้ทัน
CBDC บางส่วนจะเทียบเท่ากับเงินสดที่ออกและสนับสนุนโดยธนาคารกลาง ไม่เหมือนกับงคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ดำเนินการโดยเอกชนทั่วไป หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในธุรกรรมหลายพันล้านรายการต่อวันซึ่งส่วนใหญ่สร้างขึ้นโดยธนาคารพาณิชย์
CBDC สามารถอนุมัติออกมาได้เพื่อการทำธุรกรรมขายส่ง เร่งและลดต้นทุนของการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างบริษัทต่างๆ และเร่งการชำระราคาหุ้นและการซื้อขายพันธบัตรให้เร็วขึ้น ประชาชนทั่วไปสามารถใช้เงินดอลลาร์ดิจิทัลเพื่อการค้าปลีกได้ ทำให้ชาวอเมริกันเข้าถึงบริการทางการเงินได้หลากหลายมากขึ้น
ADVERTISEMENT
แต่ CBDC ของสหรัฐ ยังคุกคามเสถียรภาพของระบบธนาคาร ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และค่าใช้จ่าย รวมถึงการพูดถึงประเด็นนโยบายต่างประเทศ ในช่วงเวลาที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ที่กำลังนอคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระที่สองท่ามกลางการต่อต้านจากผู้ทรงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติที่ก้าวหน้า
เดวิด เบคเวิร์ธ (David Beckworth) นักวิจัยอาวุโสที่ Mercatus Center และอดีตนักเศรษฐศาสตร์ของ Treasury กล่าวว่า "มีกับดักทางการเมืองจำนวนมากที่รายล้อมสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง ซึ่งเฟดต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง" และเสริมว่าพาวเวลล์มี "ความหลักแหลมทางการเมือง" มากพอที่จะสำรวจประเก็นที่เป็นปัญหาอย่งรอบคอบ
ในเดือนพฤษภาคม พาวเวลล์ประกาศว่าคณะกรรมการของเฟดจะออกรายงานสำรวจนวัตกรรมการชำระเงินและการนำเงินดอลลาร์ดิจิทัลมาใช้ โดยแยกจากการวิจัยที่เฟดสาขาบอสตันกำลังทำงานกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เพื่อสำรวจแง่มุมทางเทคโนโลยีของ CBDC
ตั้งแต่นั้นมาพาวเวลล์ได้กล่าวว่าเขา "ยังไม่ตัดสินใจ" ในการใช้เงินดิจิทัล “นี่เป็นปัญหาพื้นฐาน คงจะเหมาะมากหากเรื่องนี้จะเป็นผลจากการปรึกษาหารือในวงกว้าง และได้รับอนุมัติให้มีการออกกฎหมายจากสภาคองเกรสในที่สุด” เขากล่าวในระหว่างการไต่สวนของรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่แล้ว
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เขาลดความคาดหวังต่อรายงานของคณะกรรมการ โดยกล่าวว่าเฟดไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับ CBDC เขากล่าวเสริมว่ารายงานดังกล่าวจะจัดการกับปัญหานโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องบางส่วน และกำหนดขั้นตอนสำหรับธนาคารกลางในการรวบรวมข้อเสนอแนะจากฝ่ายนิติบัญญัติและสาธารณชน
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ของเฟดกล่าวว่า รางานนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดการอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตของเงินดอลลาร์ดิจิทัลในวอชิงตัน และถ้อยคำที่ใช้ในรายงานถูกแยกวิเคราะห์อย่างระมัดระวังเพื่อทำนายทิศทางที่คณะกรรมการเฟดจะมีความโน้มเอียงมากที่สุด
“ไม่ว่าพวกเขาพูดอะไร มันจะเป็นการกำหนดทิศทางที่สำคัญมาก” จุเลีย โคโรนาโด (Julia Coronado) ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัย MacroPolicy Perspectives ซึ่งให้การต่อรัฐสภาเกี่ยวกับความจำเป็นที่จะต้องมีเงินดอลลาร์ดิจิทัลในเดือนกรกฎาคมกล่าว
ในขณะที่ผู้ที่สนับสนุน คาดหวังว่าเฟดจะรับรู้ถึงความเสี่ยงของเงินดอลลาร์ดิจิทัล พวกเขาหวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณเชิงบวกโดยการเน้นย้ำถึงศักยภาพการใช้ดอลลาร์ดิจิทัลและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น
ค่าเงินบาท ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ
คาด ธปท. คงดอกเบี้ยนโยบาย พยุงเศรษฐกิจจากพิษโควิด
“ถ้ามันเป็นเรื่องที่ยังไม่รู้มากกว่าความกังขา แล้วใครล่ะที่จะก้าวไปข้างหน้า” โคโรนาโดกล่าว
โฆษกของเฟดไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้
คู่แข่งดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดิจิทัลยูโร หยวนหรือดอลลาร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอาจต้องใช้เวลานานอีกหลายปี แต่แนวโน้มดังกล่าวอาจดิสรัปต์ระบบทางการเงินทั่วโลกได้อย่างมาก บางคนในวอชิงตันกังวลว่าสหรัฐ จะเสียอำนาจเหนือระบบการเงินโลก หากไม่แปลงค่าเงินดอลลาร์ให้เป็นดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันเป็นสกุลเงินสำรองทั่วโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการนำร่องดิจิทัลหยวนของจีน ซึ่งอยู่ในขั้นก้าวหน้า มีผลสะเทือนจนมีผู้กล่าวว่าคู่แข่งทางเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐกำลังฉกฉวยโอกาสในนัวตกรรมด้านนี้
เลเอล ไบรนาร์ด (Lael Brainard) ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่าเธอคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐจะปล่อยมเงินดอลลาร์ดิจิทัลในเมื่อเศรษฐกิจเป็นคู่แข่งขันกันกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วย CBDC “นั่นฟังดูไม่เหมือนอนาคตที่ยั่งยืน” เธอกล่าวในเดือนกรกฎาคม
แม้ว่าคนอื่นๆ จะสงสัยอย่างยิ่ง ผู้ว่าการเฟดอีกฝ่าย คือ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) และแรนดัล ควอลส์ (Randal Quarles) แย้งว่าธุรกรรมดอลลาร์จำนวนมากนั้นเป็นดิจิทัลอยู่แล้ว และค่าใช้จ่ายในการนำ CBDC ไปใช้อาจมีต้นทุนมากกว่าผลประโยชน์ มีแหล่งข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ภายในเฟดยังเสียงแตกในประเด็นนี้
ในรัฐสภาพสหรัฐ นักการเมืองก้าวหน้าบางคนมองว่าดอลลาร์ดิจิทัลเป็นวิธีในการให้บริการทางการเงินที่มีราคาไม่แพงสำหรับชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ต้องแบกรับต้นทุนของระบบธนาคารกระแสหลัก ในขณะเดียวกัน พรรครีพับลิกันในรัฐสภาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ทรงอำนาจก็มีส่วนได้ส่วนเสียเช่นกัน
ดอลลาร์ดิจิทัลอาจส่งผลกระทบต่อผู้ให้กู้รายใหญ่โดยการแข่งขันด้านเงินฝากที่เข้มข้นขึ้น และกลุ่มล็อบบี้ของธนาคารบางแห่งได้ผลักดันให้ผู้กำหนดนโยบายเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ดังนั้นคริปโตเคอเรนซี่ที่เชื่อมโยงกับเงินดอลลาร์หลัก ๆ อาจถูกกำจัดโดยคู่แข่งของเฟด
ในขณะเดียวกันภาคเอกชนคนอื่นๆ ได้ผลักดันให้ตัวเองมีปากมีเสียงในเรื่องนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทบัญชีแยกประเภท หอการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา และผู้ที่ชื่นชอบ CBDC ที่ทรงอิทธิพล
“ผมหวังว่ารายงานจะตอกย้ำขนบของอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่ภาครัฐทำงานร่วมกับภาคเอกชน ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายยังคงสำรวจการพัฒนาดอลลาร์ดิจิทัลต่อไป” คริสโตเฟอร์ จานคาร์โล (Christopher Giancarlo) อดีตหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Digital Dollar Foundation ที่ไม่แสวงหากำไรกล่าว