ริสแลนด์ฯ เดินเครื่องรีเฟรชแบรนด์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ชูภาพลักษณ์เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เล็งใช้นวัตกรรมอย่าง Robot มาสร้างบ้านในไทย พร้อมเน้นสโลแกน “อยู่...กับอนาคตที่สดใส (A Brighter Future Living)” เป็นแนวคิดในการสร้างสรรค์โปรดักต์และบริการ โดยพลิกโฉมเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มทั้งหมด เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคดิจิทัล คาดเมื่อปล่อยการสื่อสารหมัดเด็ดจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น และสามารถโกยยอดขายภายในปีนี้ได้ 7,500 ล้านบาท
ดร.จาง เหลียงกัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ริสแลนด์ได้ร่วมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทยมาประมาณ 4 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ได้แก่ อาร์ติซาน รัชดาฯ (Artisan Ratchada) คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี คลาวด์ สุขุมวิท 23 เดอะ ลิฟวิน เพชรเกษม สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 เดอะ ลิฟวิน รามคำแหง และโครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด 1 โครงการ คือ เลคซีรีน พระราม 2 (Lake Serene) มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท
“สำหรับปีนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 7,500 ล้านบาท เติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งไทยถือเป็นประเทศยุทธศาสตร์หลักที่ริสแลนด์ให้ความสำคัญ เพราะมีศักยภาพและปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนหลายด้าน อีกทั้งได้วางวางเป้าหมายที่จะเป็น Top 10 ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยด้วย”
เนี่ย ซงเซียน
เนี่ย ซงเซียน
นายเนี่ยซงเซียน ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการขายและการตลาด ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความที่ริสแลนด์มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทำตลาดมาแล้วหลายประเทศทั้งในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย และอินโดนีเซีย ทำให้มีโนว์ฮาวจากประเทศต่างๆ บริษัทจึงได้นำเทรนด์อสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยระดับโลกเข้ามาปรับใช้กับโครงการในไทยโดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้พัฒนาโครงการของริสแลนด์ทั้งการก่อสร้างด้วย Robot รวมถึงระบบการจดจำใบหน้า และการสั่งการด้วยเสียง สำหรับเข้าออกโครงการ เป็นต้น”
“เพื่อให้ริสแลนด์สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้มากขึ้น บริษัทจึงได้ทำการรีเฟรช (Refresh) แบรนด์เป็นครั้งแรก โดยเน้นความมุ่งมั่นของริสแลนด์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “อยู่...กับอนาคตที่สดใส (A Brighter FutureLiving)” ซึ่งยังเป็นสโลแกนของแบรนด์อีกด้วยเพราะมองว่าการเลือกที่พักอาศัยนับเป็นการลงทุนที่สำคัญของชีวิต ดังนั้น ลูกค้าจึงต้องเลือกซื้อโครงการที่ดีและมีคุณภาพซึ่งริสแลนด์พร้อมส่งมอบคุณค่าสำหรับอนาคตที่สดใสผ่านแกนหลัก 3C ได้แก่ เชื่อมต่อกับเมือง (Connect to Urbanization) เติมเต็มการอยู่อาศัย (CompletedLiving) และเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี (Connect Your Tech)”
กันติทัต มลทา
กันติทัต มลทา
นายกันติทัต มลทา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาดและแบรนด์องค์กร ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายของการรีเฟรชแบรนด์ว่าริสแลนด์ต้องการสร้างการรับรู้ใหม่ด้านภาพรวมของแบรนด์ โดยยึดเจตจำนงของแบรนด์ (Brand Purpose)ที่ต้องการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของคนในทุกเจเนอเรชันให้ดีขึ้นด้วย “บ้าน” ซึ่งหนึ่งในแผนงานของการรีเฟรชแบรนด์ คือการปรับโฉมเว็บไซต์ www.risland.co.th ที่ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพให้รองรับการใช้งานได้กับทุกหน้าจอไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก
“เว็บไซต์เปรียบเสมือนทางเข้าบ้านหรือโชว์รูมหลักสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าเราจึงสร้างสรรค์เว็บไซต์ใหม่ให้น่าสนใจมากขึ้น ซึ่งมีการจัดทำทั้งหมด 3 ภาษา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนกลาง พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่หลากหลาย และสามารถใช้งานได้สะดวก โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลโครงการต่างๆ ของริสแลนด์ได้ง่ายขึ้น สามารถชมโครงการได้แบบ Virtual 360 หรือนัดหมายเยี่ยมชมแบบ Private ก็ได้ รวมถึงลูกค้าสามารถทำการจองซื้อพร้อมชำระเงินออนไลน์ผ่านระบบ Payment Gateway ได้อีกด้วย”
นายกันติทัต กล่าวเพิ่มเติมว่า การรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ยังเป็นกลยุทธ์ของริสแลนด์ที่ต้องการวางรากฐานอย่างมั่นคงให้ธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว โดยจะเป็นสเต็ปสำคัญที่ทำให้ริสแลนด์มีความโดดเด่นมากขึ้น สามารถสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมมากกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงริสแลนด์ว่าเป็นแบรนด์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่สามารถส่งมอบคุณค่าสำหรับอนาคตที่สดใสของการอยู่อาศัยให้ลูกค้าได้อย่างแท้จริง