ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า
สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนนำมาสู่การขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน ร้อยละ 70 ต่อจีดีพี จะไม่กระทบเสถียรภาพทางการคลังในระยะสั้น โดยรัฐบาลยังมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ครบกำหนดได้ เนื่องจากโครงสร้างหนี้สาธารณะของไทยส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนในประเทศและเป็นหนี้ระยะยาว โดยเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา สัดส่วนหนี้ในประเทศอยู่ที่ ร้อยละ 98.2 ของหนี้สาธารณะรวม ทำให้สัดส่วนหนี้ต่างประเทศในหนี้สาธารณะของไทยอยู่ในระดับต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ดังนั้น ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และอัตราแลกเปลี่ยน จึงอาจมีผลกระทบไม่มากนัก
นอกจากนี้ โครงสร้างหนี้สาธารณะของไทยราว ร้อยละ 94 เป็นหนี้ระยะยาว ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดการ roll over หนี้ที่ครบกำหนดไม่ทันมีอยู่จำกัด และอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งจะช่วยเอื้อให้ต้นทุนของภาระหนี้ ในกรอบเวลาระยะสั้นนั้น ยังอยู่ในระดับต่ำ