บลจ.เกียรตินาคินภัทร แนะหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ยังมีแนวโน้มเติบโตระยะยาว จากความต้องการสูงตามพัฒนาการเทคโนโลยี แต่สินค้าอยู่ในภาวะขาดแคลน ดันกระแสตอบรับกองทุน KKP SEMICON-H แข็งแกร่งต่อเนื่อง
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เกียรตินาคินภัทร จำกัดเปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว โดยจากการคำนวณพบว่า
ซื้อหวยออนไลน์ มีอัตราผลตอบแทนนับแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ 26.03% ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวมและดัชนีตลาดหุ้นโลกที่ 21.11% และ 14.70% ตามลำดับ
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. เกียรตินาคินภัทร จำกัด
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. เกียรตินาคินภัทร จำกัด
ปัจจัยสนับสนุน มาจากความต้องการใช้งานตามพัฒนาการของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบคลาวด์ทั้งส่วนบุคคลและภาคธุรกิจ การขยายและติดตั้งระบบเครือข่ายสัญญาณ 5G และการเริ่มฟื้นตัวของอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญ
ประกอบกับระดับสินค้าคงคลังของเซมิคอนดักเตอร์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ช่วยสนับสนุนประมาณการกำไรสุทธิของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไปถึงปีหน้า
ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด (Consensus) ประมาณการกำไรสุทธิของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ปีนี้และปีหน้าว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 32.04% และ 10.57% ซึ่งสูงกว่าประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิดัชนีหุ้นโลกที่ 20.86% และ 7.09% ตามลำดับ ปัจจุบัน หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จึงจัดว่ามีระดับมูลค่าที่น่าสนใจลงทุนแม้ว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาตลอดตั้งแต่ต้นปี
“ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยีคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตของเศรษฐกิจการค้าโลกในปัจจุบันและอนาคต กองทุนที่ลงทุนในหุ้นเซมิคอนดักเตอร์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่กำลังมองหาธีมการลงทุนเพิ่มเติมจากพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Port) เพื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ต และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่เติบโตตามเทคโนโลยี”นายยุทธพลกล่าว
ดังนั้น เคเคพี เซมิคอนดักเตอร์ เฮดจ์ (KKP SEMICON-H) กองทุนเปิดที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ของบลจ.เกียรตินาคินภัทร ที่ได้เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO)ไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. – 6 ก.ค. 2564 ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดยมียอดจองซื้อทั้งสิ้น 871 ล้านบาท และยังคงมียอดเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังการเสนอขายครั้งแรก
ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจำนวน 1,774 ล้านบาท (เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 64) แสดงถึงความตื่นตัวของผู้ลงทุนต่อนวัตกรรมที่เป็นเหมือนสมองของเทคโนโลยีในอนาคตอย่างเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่ งกองทุน KKP SEMICON-H มีค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.75% ต่อปี และยังได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564