“UAC” เผยข่าวดี โรงไฟฟ้าชุมชน ขอนแก่น – มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด 12 MW ผ่านฉลุย

“UAC” เผยข่าวดี โรงไฟฟ้าชุมชน ขอนแก่น – มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด 12 MW ผ่านฉลุย

  • 0 ตอบ
  • 80 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Beer625

  • *****
  • 3030
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




บมจ.ยูเอซี โกล. (UAC) ปลื้มโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 4 โครงการ (ขอนแก่น 2 แห่ง - มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด) กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 12 เมกะวัตต์ ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคฉลุย ด้าน CEO “ชัชพล ประสพโชค” ลุ้นรอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ วันที่ 23 กันยายนนี้ ประกาศมั่นใจศักยภาพ ชูความพร้อมนวัตกรรม – การจัดหาแหล่งเชื้อเพลิง และฐานะทางการเงินครบสูตร จ่อเปิดกว้างรับพันธมิตรต่อยอดให้บริการ Consul Service หนุนธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกล. จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้ยื่นอุทธรณ์โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด จากทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้พิจารณาอนุมัติคุณสมบัติและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค ของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง)พ.ศ. 2564 รับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบ ไม่เกิน 150 เมกะวัตต์ ทั้งนี้การพิจารณาการอนุมัติดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทย่อยของ UAC ทั้ง 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 3 จำกัด ที่ตั้งตำบลเมืองเปลือย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด และบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 5 จำกัด ที่ตั้งตำบลซับสมบูรณ์ อำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น ได้รับพิจารณาอนุมัติเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ เป็นโครงการผลิตโรงไฟฟ้าประเภทชีวภาพ รวมเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 6 เมกะวัตต์

โดยก่อนหน้านี้ โครงการของบริษัทฯผ่านคุณสมบัติและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิครอบแรกแล้วจำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย บริษัท ยูเอซี แอนด์ ทีพีที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ที่ตั้ง ตำบล นาฝาย อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น และ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ครอป พาวเวอร์ 4 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลหนองโก อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ส่งผลให้บริษัทฯผ่านพิจารณาอนุมัติ รวมทั้งหมด 4 โครงการ เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 12 เมกะวัตต์

“ UAC ยื่นประมูลไปทั้งสิ้น 6 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 18 เมกะวัตต์ เฉลี่ยโครงการละ 3 เมกะวัตต์ และผ่านคุณสมบัติ 4 โครงการ ส่วนอีก 2 โครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบสาเหตุ ตามที่ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนนี้ ”

ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไป บริษัทฯรอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 23 กันยายน 2564 และกำหนดลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วัน นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก หรือภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกล. กล่าวตอกย้ำว่าบริษัทฯ มีความพร้อมด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงานจากก๊าซชีวภาพมากว่า 10 ปี และยังมีโรงไฟฟ้าต้นแบบอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่อง พร้อมทั้งยังได้ร่วมมือกับทางวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ในการจัดหาเชื้อเพลิงจะต้องมีสัญญารับซื้อเชื้อเพลิงในราคาประกันกับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนดไว้ ซึ่งจากศักยภาพดังกล่าวเป็นการการันตีได้กว่า UAC เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจในระดับฐานรากเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้ จากความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการ Consul Service การออกแบบและสร้างโรงงาน Biogas โดยใช้พืชพลังงานเป็นเชื้อเพลิง ทำให้บริษัทฯมีแผนต่อยอดทางธุรกิจ โดยแตกไลน์ธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษา Consult Service ให้กับผู้ประกอบการ อย่าง บมจ.ซันสวีท (SUN ) ในการดำเนินการโครงการก่อสร้างระบบไบโอแก๊ส จากวัตถุดิบเหลือทิ้งจากขบวนการผลิตของโรงงาน (ซังข้าวโพด) ซึ่งสามารถตอบโจทย์แนวทาง Green Energy สร้างสมดุลในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน ในระยะยาว ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายไลน์ธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษา บริษัทฯจึงสบช่องทางธุรกิจ โดยเปิดกว้างรับพันธมิตรที่สนใจก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อมาต่อยอดให้บริการ Consult Service พร้อมให้คำปรึกษากับพันธมิตรทุกราย

“ UAC มีศักยภาพและความพร้อม ทั้งเทคโนโลยี แหล่งเงินทุน รวมถึงด้านเชื้อเพลิง ที่สำคัญยังมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และยังมีเครือข่ายความร่วมมือจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ดังนั้นจึงเชื่อว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะช่วยต่อยอดและผลักดันภาพรวมธุรกิจของ UAC เติบโตอย่างยั่งยืน อย่างมีนัยสำคัญ ” นายชัชพล กล่าวทิ้งท้าย