ความเคลื่อนไหว
ทีมฟุตซอลชาติไทย วันที่ 10 กันยายนผ่านมา ได้ลงฝึกซ้อมที่สนามลิทูวอสเป็นครั้งที่สอง ใช้เวลาซ้อมประมาณ 1 ชั่วโมง โดย "โค้ชหมี" รักษ์พล สายเนตรงาม กุนซือของทีมไทยเพิ่มความเข้มข้นระหว่างการซ้อมด้วยการลงเกมเล่นครึ่งสนามและลงเกมเต็มสนาม พร้อมกับฝึกแท็กติกลูกสูตรต่างๆ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมากขึ้นหลังจากสภาพร่างกายเริ่มคลายอาการล้าจากการเดินทาง
โดยมี บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุต.ฯ และประธานพัฒนาฟุตซอลฯ , ดร.ลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกบริหารงานฝ่ายอำนวยการบัญชี และการเงิน พร้อมด้วย สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลไทย ติดตามชมการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด
หลังการฝึกซ้อม "บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลสมาคมฟุต.ฯ กล่าวถึงเกมนัดแรกที่เจอกับโปรตุเกสวันที่ 13 กันยายนนี้ว่า "ไม่คิดว่าทีมชาติไทยเป็นรองโปรตุเกสอย่างชัดเจนแต่อย่างใด เพราะชื่อชั้นเรื่องราวเก่าๆ ไม่สามารถนำมาเป็นตัวชี้วัดในปัจจุบันได้ เรื่องชื่อชั้นเป็นเพียงองค์ประกอบในการเปรียบเทียบเท่านั้น แต่ในขณะนี้ทีมเราก็มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ขณะเดียวกันความมุ่งมั่นในเกมนี้ ทำให้ทีมไทยเองมีพลังการร่วมมือร่วมใจ เราไม่ต้องคิดถึงแมตช์ที่สองแมตช์สาม เราวางโฟกัสไว้แมตช์นี้ แล้วเรื่องราวหลังจากนั้นจะตามมาจากผลของเกมนี้ ซึ่งเชื่อว่ามันจะไม่ไช่งานง่ายของโปรตุเกสเช่นกัน และเชื่อว่าไทยสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้"
ด้าน สุทิน บัวตูม ผจก.ทีมชาติไทย กล่าวว่า" เวิลด์คัพของเราเล่นเพื่อเกียรติยศ เพื่อศักดิ์ศรี มันจะเป็นประวัติศาสตร์ที่จะจารึกไว้ตลอดชีวิต เรื่องแบบนี้เงินซื้อไม่ได้ ถ้าไม่มีความสามารถ ดังนั้นนักเตะทุกคนผู้ฝึกสอนจะสู้เต็มร้อยให้สมศักดิ์ศรี เเละเราจะทำสำเร็จด้วยกำลังใจของคนไทย 70 ล้านคนที่จะส่งแรงใจมาเชียร์"
ขณะที่ "โค้ชหมี" รักษ์พล สายเนตรงาม หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตซอลชายทีมชาติไทย กล่าวว่า
"วันนี้เราได้ศึกษาการเล่นของคู่แข่งร่วมสายทั้งของโปรตุเกส และโมร็อคโค รวมทั้งโปรแกรมการฝึกซ้อมต่างๆ เราก็วางแผนค่อนข้างรัดกุม ณ ช่วงเวลาที่เหลือ" โค้ชหมีกล่าวเริ่ม
"การเดินทาง เป็นปกติที่จะล้า ทุกคนในทีม เดินทางค่อนข้างบ่อย โปรแกรมการซ้อมวันแรก เราได้เน้นฟื้นฟูร่างกาย กล้ามเนื้อ ระบบหายใจ ส่วนวันนี้เราจะซ้อมเต็มรูปแบบและช่วงเช้าเราก็ได้ยืดเส้นยืดสาย เราไม่อยากให้เด็กเกิดปัญหาเรื่องการปรับเวลา เราต้องวางแผนทั้งในสนามและนอกสนามให้ดี"
"เรื่องที่พักกับสนามซ้อมใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที สนามแข่งก็ 5 นาที การเดินทางก็ไม่ลำบากเท่าไหร่"
"การมาลิทัวเนีย เรามีคุณหมอไพศาลมาด้วย คอยช่วยเหลือเรื่องสุขภาพ ก็ได้รับคำแนะนำว่าเวลาออกไปข้างนอก หรืออยู่ในโรงแรม ก็พยายามใส่หน้ากาก แต่ที่ลิทัวเนีย ถ้าออกกลางแจ้งคนที่นี้เขาก็ไม่ค่อยใส่แล้ว แต่เราก็เน้นย้ำว่าควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองตามคำแนะนำของหมอ ไพศาล"
"ส่วน การเจอโปรตุเกส เราถูกมองว่าเป็นรองแน่นอน แต่ทีมเรามั่นใจ เด็กเรามีสปิริตดีมาก เราวางแผนเรียบร้อยแล้วว่าจะใช้วิธีการไหน ในการเจอกับโปรตุเกส เพราะเขามีนักเตะที่อันตราย 4-5 คน โปรตุเกสชุดนี้น่าจะดีที่สุดนับตั้งแต่พวกเขามีมา แต่ว่าเราก็ต้องสู้เต็มที่และมีวิธีการเล่น และวางแผนรัดกุม พยายามทำงานอย่างละเอียด พวกเราทุกคนทำงานหนักในการศึกษาวีดีโอ และวิเคราะห์ คู่ต่อสู้"
"เราหวังว่าจะมีอย่างน้อยหนึ่งแต้ม น้องๆ ทุกคนก็มั่นใจ เขารู้ว่าเขาต้องทำเพื่อทีมชาติไทย สู้เกินร้อยแน่นอน ทุกคน สภาพจิตใจและร่างกายก็เต็มร้อยเหมือนกัน"
"ฝากเป็นกำลังใจให้ทีมฟุตซอลของเราด้วย ทุกคนมาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติของเรา เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สำหรับทัวร์นาเมนต์ เพราะมันสำคัญที่สุดสำหรับนักกีฬาฟุตซอล ก็คือฟุตซอลโลก"
ส่วน ความคืบหน้าเรื่องกระเป๋าเดินทางและสัมภาระของทีมฟุตซอลทีมชาติไทยที่ตกหล่นระหว่างการเดินทางจากสุวรรณภูมิไปลิทัวเนีย ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา มีข่าวดีเมื่อ สัมภาระของนักกีฬา และสต๊าฟฟ์โค้ช ได้ถูกนำมาส่งที่โรงแรมเบสท์โฮเต็ลที่พักแล้ว เช่นเดียวกับชุดแข่งของทีมชาติไทยที่ทุกคนรอคอยและหวั่นวิตกว่าจะมาไม่ทันการแข่งขัน ซึ่งเมื่อได้ชุดแข่งเเล้ว ทางทีมงานต้องเร่งติดอาร์มฟีฟ่าเวิลด์คัพอย่างเร่งด่วนทุกชุด แต่ยังขาดสัมภาระ อาหารแห้ง ของที่ระลึก อีกราว 10 ลัง ที่ยังไม่ได้คืน
สำหรับ ฟุตซอลทีมชาติไทย จะลงฟาดแข้งฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ประเทศลิทัวเนีย ในระหว่างวันที่ 12 กันยายน-3 ตุลาคม 2564 โดยอยู่กลุ่มซี ร่วมกับ โปรตุเกส, โมร็อกโก และ หมู่เกาะโซโลมอน
โปรแกรมการแข่งขัน ทั้ง 3 เกมของไทยในรอบแรก ถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD 36 (ตามเวลาประเทศไทย)
วันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 00:00 น. ไทย VS โปรตุเกส
วันที่ 16 กันยายน 2564 เวลา 00:00 น. ไทย VS โมร็อกโก
วันที่ 19 กันยายน 2564 เวลา 00:00 น. หมู่เกาะโซโลมอน VS ไทย