วันนี้ (4 ก.ย.) นายอิสระ ชูภักดี เจ้าของแบรนด์
KORKOK ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้านด้วยการทอเสื่อกกจันทบูรออกขายจนเป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ได้นำผู้สื่อข่าวชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เสื่อกก บ้านเสม็ดงาม ต.บางสระแก้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ให้เป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าเสื่อจันทบูร จนสามารถต่อยอด สร้างมูลค่าการขายผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างงดงาม
โดยกระเป๋าเสื่อจันทบูร ผลิตจาก 'กกสองน้ำ' ที่ขึ้นอยู่บริเวณชายฝั่งและมีคุณสมบัติพิเศษคือเส้นใยที่เหนียว แข็งแรง ไม่ขึ้นราได้ง่ายเท่ากับกกน้ำจืด ที่ใช้สำหรับถักทอเป็นเสื่อจันทบูร ที่มีความแข็งแรงและทนทาน
เจ้าของแบรนด์ KORKOK ยังบอกอีกว่า การแปรรูปผลิตภัณฑ์เสื่อกก สู่กระเป๋าเสื่อจันทบูร ถือเป็นการปรับรูปแบบผลิตภัฑณ์ให้เหมาะสมกับธรรมชาติที่มีอยู่รอบด้านตามวิถีชีวิตเฉพาะถิ่น ที่มีอัตลักษณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ จนทำให้สินค้าเมื่อถูกนำออกขายผ่านช่องทางออนไลน์สามารถสร้างผลตอบรับได้ดีเกินคาด และปัจจุบันยังมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะคือผู้ที่รักงานที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่นมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกระเป๋าเสื่อจันทบูร เน้นการขายผ่านระบบออนไลน์เพื่อเปิดตลาดทั้งในและต่างประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการผลิตเน้นการถักทอแบบโบราณ ผสมผสานการออกแบบรูปทรงทันสมัย และมีราคาขายเริ่มต้นที่ 3,000 บาท ตามขนาดและรูปร่าง
"แม้ราคาขายจะค่อนข้างสูงแต่ลูกค้าต่างเข้าใจในขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยาก และใช้เวลายาวนานต่อการผลิต 1 ใบ เนื่องจากต้องใช้ทั้งความประณีตและละเอียดลออ ถือเป็นการสร้างมูลค่าสินค้าพื้นบ้านยกระดับสู่ตลาดยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี"
นายอิสระ ยังเผยอีกว่า นอกเหนือจากลูกค้าจะได้ใช้ของดีและของที่มีคุณค่าแล้ว การใช้กระเป๋าเสื่อจันทบูร ยังถือเป็นการช่วยเหลือชุมชน และช่วยต่อลมหายใจของกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่มีอาชีพทอเสื่อกกมานาน
เนื่องจากปัจจุบันเหลือเพียงกลุ่มคนรุ่นสุดท้ายเท่านั้นที่ยังทอเสื่อกก ซึ่งกระเป๋าที่ถูกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยมากขึ้นสามารถการันตีได้เลยว่ามีแค่เพียงใบเดียวในโลก ซึ่งถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจได้เป็นอย่างดี