นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ทั้งธุรกิจคลังสินค้าและ
พื้นที่ให้เช่าของบริษัท มีแนวโน้มผลประกอบการเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะสัญญาระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นมาก ด้านธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ธุรกิจน้ำยังคงมีทิศทางการเติบโตจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในไทยและเวียดนามยังดีกว่าปีก่อน
โดยบริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็นในประเทศไทย 725 ไร่ และในประเทศเวียดนาม 305 ไร่ สำหรับพื้นที่ในประเทศไทย 725 ไร่ แบ่งเป็นยอดขายในนิคมฯ 600 ไร่ นอกนิคมฯ 125 ไร่ มั่นใจว่ามีโอกาสทำได้ดีกว่าเป้า เนื่องจากยังคงเห็นความต้องการจากยุโรป, ไต้หวัน, จีน ,ญี่ปุ่น และอินเดีย จากกระแสการย้ายฐานการผลิตอย่างต่อเนื่องจนมาถึงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติมองหาฐานการลงทุนแห่งใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างเดียว ซึ่งทั้งไทยและเวียดนามได้ประโยชน์
ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
จากครึ่งปีแรก 2564 มียอดรอเซ็นสัญญาซื้อขายLOI อยู่ที่ 83 ไร่ และมียอดขายที่ดินรอโอน( Backlog ) อยู่ที่ 400 ไร่ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าหลายราย มองว่า ในครึ่งปีหลังยอดขายที่ดินจะเริ่มกลับมา จากโรคระบาดโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย แม้โควิดจะกระทบข้อจำกัดการเดินทาง แต่การลงทุนจริงยังดีต่อเนื่องและมีการพัฒนาระบบออนไลน์มาช่วยสนับสนุนยอดขายที่ดินด้วย
สำหรับยอดขายที่ดินในเวียดนาม 305 ไร่ คาดว่าอาจต่ำกว่าเป้า เพราะ มีล็อกดาวน์ แต่ดีมานด์ยังดีอยู่ ไม่กระทบยอดขายแต่จะกระทบยอดโอนที่อาจจะต้องเลื่อนไปปี 2565
“ยอดขายที่ดินครึ่งปีหลังนี้ยังดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ จากเจรจาขายที่ดินต่อเนื่อง ในส่วนของยอดโอนอาจกระทบบ้างปีนี้ แต่จะทำให้แบ็คล็อคไปโอนในต้นปีหน้า”
นางสาวจริพร กล่าวว่า ทางด้านธุรกิจให้เช่าพื้นที่ยังเติบโตดีต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเป้าหมายให้เช่าพื้นที่ในปีนี้ที่ 175,000 ตารางเมตร ในครึ่งปีแรก 2564 ให้เช่าพื้นที่แล้ว 40-50% ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหญ่ เช่าคลังสินค้าเพิ่มอีก 55,000-60,000 ตารางเมตร คาดหวังว่าจะปิดดีลให้สำเร็จในปีนี้ รวมทั้งการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่ง ก็มีส่วนทำให้ความต้องการเช่าระยะสั้นสูงขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพอีก 2 บริษัท คาดใช้เงินลงทุนราว 200 ล้านบาท เบื้องต้นจะสรุปได้ปีนี้หรือปีหน้า