"เมตะ คอร์ปอเรชั่น" ให้ "โนว่า เอเชีย" เข้าลงทุนใน "พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์)" จำนวน 850,000 หุ้น หรือ 85% ที่ราคาหุ้นละ 242 บาท มูลค่าเงินลงทุนรวมเกือบ 206 ล้านบาท
เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจเพียงประเภทเดียวนายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ META แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ที่พิจารณาอนุมัติให้บริษัท โนว่า เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ META เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 850,000 หุ้น หรือร้อยละ 85 ที่ราคาหุ้นละ 242 บาท มูลค่าเงินลงทุนรวม 205,700,000 บาท ตามนโยบายดำเนินธุรกิจด้านการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้ผลประกอบการของบริษัท
โดยในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ตัวแทนจากบริษัท โนว่า เอเชีย จำกัด และบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นร่วมกัน โดยมีคณะผู้บริหารบริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยานในงานลงนาม
สำหรับบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นเจ้าของและผู้ให้บริการธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ (PICO Finance) ในชื่อ “Pico เงินด่วน” ให้บริการปล่อยสินเชื่อรายบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพราะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน บริการ “Pico เงินด่วน” ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย จึงเป็นธุรกิจทางเลือกที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของคนที่สนใจขอสินเชื่อ
“META มีนโยบายขยับขยายสู่ธุรกิจที่มีความหลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจเพียงประเภทเดียว เห็นว่าธุรกิจการเงินในรูปแบบพิโกไฟแนนซ์จัดเป็นธุรกิจใหม่ที่อยู่ในช่วงดาวรุ่ง Fintech กำลังได้รับความนิยมแต่ธุรกิจประเภทนี้ยังมีไม่มาก ขณะที่ความต้องการของตลาดและแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นถือเป็นโอกาสดีที่ META จะเข้าลงทุนตอนนี้” นายศุภศิษฏ์ กล่าว
ทั้งนี้ Pico เงินด่วน ให้บริการในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2560 มี portfolio ประมาน 150 ล้านบาท ให้สินเชื่อผ่านช่องทาง Online โดยตั้งเป้าเติบโต 100% ภายในปี 2565 หรือเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคงที่ ธุรกิจ Fintech มีแนวโน้มที่จะพัฒนาสู่รูปแบบที่ก้าวหน้ากว่าเดิม เรียกว่าเป็น Hybrid Pico Fintech เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น บริษัทจะเตรียมตัวเพื่อพาโนว่า เอเชีย เข้าตลาดหากมีโอกาสในอนาคต ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าการเข้าลงทุนครั้งนี้เป็นโอกาสและจะหนุนให้มีส่วนแบ่งรายได้ธุรกิจการเงินมากขึ้น คาดรับรู้รายได้ตั้งแต่ Q4/2564 เป็นต้นไป ดันผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในภาพรวมโตไปด้วย
