ราคาทองคำเข้าสู่ภาวะขาลง หลังราคาทองคำปรับหลุดระดับ 1,800 เหรียญลงมา และหลุดระดับแนวรับระยะสั้นหรือบริเวณ 1,700 เหรียญ แลยังทำต่ำสุดใหม่ประมาณ 1,720 เหรีญญ ในรอบหลายสัปดาห์
การที่ราคาทองคำปรับหลุดระดับ 1,800 เหรียญลงมา และหลุดระดับแนวรับระยะสั้นหรือบริเวณ 1,700 เหรียญ จึงทำให้ภาพรวมของทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงและทำทองคำยังทำต่ำสุดใหม่ประมาณ 1,720 เหรีญญ ในรอบหลายสัปดาห์ช่วงเดือนต.ค.นี้ จึงวิเคราะห์ว่า แนวโน้มหลักของทองคำเป็นขาลง และน่าจะมีโอกาสลงได้ต่อจนถึงสิ้นปีนี้
โดยน่าจะเป็นผลกระทบจากการที่เฟดจะกลับมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินโดยตรง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจและจีดีพีสหรัฐฯ และภาพรวมของการจ้างงานอยู่ในทิศทางที่ค่อนข้างปรับตัวสูงขึ้นได้ดี และจะเห็นได้ว่า ถึงจะเผชิญกับสภาวะ Covid-19 ในสหรัฐฯ แต่จะเห็นถึงการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับกลุ่มประเทศ CLMV และไทยเคลื่อนตัวได้ช้าลง
กล่าวโดยสรุปคือ ราคาทองคำช่วงปลายปีเป็นทิศทางขาลง ขณะที่ทองคำไทยปรับตัวลดลงไม่มากจากการที่เศรษฐกิจไทยอ่อนแอลง อันเนื่องจากสภาวะ Covid-19 และภาคการท่องเที่ยวที่ไม่ฟื้นตัวขึ้นมาเลย ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า โดยต้นปีบาทอยู่แถว 31 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ปัจจุบันเงินบาทต้นเดือนต.ค. เริ่มอยู่ใกล้ 34 บาท/ดอลลาร์เข้าไปทุกที และการอ่อนค่าของเงินบาททำให้ทองคำไทยปรับตัวลดลงไม่มาก หรือทำให้ราคาทองคำไทยนั้นยังทรงตัวได้บริเวณ 27,500 - 28,000 บาท/บาททองคำได้
ขณะที่ทองคำตลาดโลกเป็นขาลง โดยแนวรับหลักของราคาทองคำตลาดโลกจะอยู่บริเวณ 1,700 เหรียญในระยะกลาง และระยะยาวต่อไปอาจลงไปถึง 1,650 เหรียญได้
ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน บริษัท MTS GOLD แม่ทองสุก ยังคงแนะนำการลงทุนในสภาวะทิศทางแนวโน้มขาลง ตามสภาพของตลาด นักลงทุนไทยเริ่มมีการปรับตัวได้ดีขึ้นจากความคุ้นชินที่จะทำกำไรในทิศทางขาลงได้เป็นอย่างดีมากขึ้น สำหรับการบริหารความเสี่ยงหรือ Portfolio จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการลงทุนในทองคำ และโปรดอย่าลืมว่า แนวโน้มของทองคำยังมีความผันแปรหรือแกว่งตัวค่อนข้างสูงมาก
สรุปได้ว่า การลงทุนในทองคำ ณ ปัจจุบันของไทยมีความพัฒนาและก้าวหน้าไปมาก โดยล่าสุดจะเห็นได้ถึงการซื้อขายทองคำบนแพลทฟอร์มออนไลน์ที่มีความง่าย สะดวก และรวดเร็ว
เร็วๆนี้ บริษัท MTS Gold แม่ทองสุก ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จะเปิดให้บริการซื้อขายทองคำสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านแอพลิเคชัน “เป๋าตัง” เจ้าแรกในไทย ที่ให้ผู้สนใจสามารถซื้อขายทองราคา Real Time ไร้ค่าธรรมเนียม เริ่มต้นเพียง 0.1 ออนซ์ โดยจะเริ่มให้บริการวันแรก 25 ต.ค.นี้
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนทองคำระยะยาว จะต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามสภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและรุนแรงให้ทันกับสภาวะตลาดโลกยุคดิจิทัลนั่นเอง