สิ้นสุดการรอคอย “กลุ่มทุนซาอุฯ” จ่าย 300 ล้าน ป. เทกโอเวอร์ “นิวคาสเซิล”

สิ้นสุดการรอคอย “กลุ่มทุนซาอุฯ” จ่าย 300 ล้าน ป. เทกโอเวอร์ “นิวคาสเซิล”

  • 0 ตอบ
  • 78 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kaidee20

  • *****
  • 2826
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 



หลังจากเป็นข่าวกันมายาวนานแรมปี ในที่สุด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก็ได้เจ้าของใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อบริษัท พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย เทกโอเวอร์ทีมฟุต.ชื่อดังของ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อย่างเป็นทางการ

รายงานสื่อทุกสำนักเผยว่า กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ที่มี โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศ อยู่เบื้องหลัง เดินเรื่องเพื่อจัดการครอบครองสโมสรดังแห่งแดนอีสาน ซึ่งหลังจาก พรีเมียร์ ลีก ตรวจสอบหลักฐานและประวัติต่างๆ ก็ได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อย

กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ใช้เงินราว 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,760 ล้านบาท) ซื้อกิจการลูกหนังทีมนี้ต่อจาก ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมคนก่อนที่สาวก “ทูน อาร์มี่” ชิงชังมาโดยตลอด และเคยมีข่าวจะขายทีมให้กับเศรษฐีมากมายที่สนใจ ก่อนเป็นกลุ่มทุนจากซาอุฯ ที่มาเทกโอเวอร์ในที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มการลงทุนจากบริษัทอื่น อาทิ พีซีพี แคปิตอล พาร์ทเนอร์ ภายใต้การดูแลของ อแมนด้า สตาเวลีย์ นักธุรกิจหญิงชั้นนำ กับ อาร์บี สปอร์ต แอนด์ มีเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มทุนสาธารณะ เข้ามามีส่วนร่วมในการเทกโอเวอร์ “สาลิกาดง” ด้วยเช่นกัน

การเข้ามาของกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ทำให้ นิวคาสเซิล ชั่วโมงนี้กลายเป็นทีมที่ร่ำรวยที่สุดของ พรีเมียร์ ลีก เป็นที่เรียบร้อย ด้วยทรัพย์สินมูลค่าสูงถึง 320,000 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 14 ล้านล้านบาท) เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ครองตำแหน่งทีมที่ร่ำรวยที่สุดใน พรีเมียร์ ลีก ไปแล้ว