กล้วย เชิญยิ้ม เล่าเส้นทางวงการตลกกว่า 40 ปี-ยุคทองของคาเฟ่

กล้วย เชิญยิ้ม เล่าเส้นทางวงการตลกกว่า 40 ปี-ยุคทองของคาเฟ่

  • 0 ตอบ
  • 76 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Thetaiso

  • *****
  • 2964
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 


เรียกว่าเป็นนักแสดงตลกรุ่นใหญ่ที่อยู่ในวงการมายาวนาน กล้วย เชิญยิ้ม แต่ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จนมีวันนี้ ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจในรายการ  Z story ทางช่องอมรินทร์ทีวี เล่าเรื่องราวในชีวิตตั้งแต่จุดเริ่มต้นในอาชีพที่เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงลิเกมาก่อน

“จริงๆเราเป็นคนขี้อายพูดน้อย ผมมาทางนี้ก็เพราะคุณพ่อเป็นหัวหน้าคณะลิเก แกก็หยิบมาฝึกแต่เด็กๆอายุ 10 ขวบหลังจากที่เราเล่นลิเกที่อยู่ต่างจังหวัด วันนึงเราได้มาเล่นลิเกในกรุงเทพ ขณะเดียวกันพี่เด่น เด๋อ เทพ เค้าก็ดังแล้ว พี่โน๊ตก็กำลังเป็นดาวรุ่ง เป็นตลกเชิญยิ้มยุคอวกาศ เราก็ได้แต่มองว่าจะเข้าไปเล่นตลกในคาเฟ่อย่างไรแบบพวกพี่ๆเค้าบ้าง

แล้วก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นคนอยู่ในวงการตลกจากดนตรีลูกทุ่งนี่แหละ แกแอบมาดูผมเล่นลิเกตลาดเตาปูน เค้าก็คงมองว่าเรามีแวว ชวนไปเล่นตลกด้วยกันไหม เลยรับปากเลย รุ่งเช้าก็ไปฝึก อีกสองสามวันก็ได้มีโอกาสไปเล่นที่คาเฟ่”




หลังจากได้โอกาสไปเล่นตลกในคาเฟ่ได้สำเร็จก็เป็นความโชคดีอีกอย่างหนึ่งที่ยุคนั้นตลกคาเฟ่เฟื่องฟูมาก

“รายได้ก็เป็นกอบเป็นกำ วันนึงวิ่งงานเริ่มจากหนึ่งทุ่ม หรืออาจจะเริ่มจากงานอีเวนท์สี่โมงก็รับรายได้แล้ว 20,000-30,000 บาทในยุคนั้นนะ”

รายได้เยอะจนสามารถซื้อบ้านราคา 10 ล้านได้ในเวลาเพียงแค่ 2 ปี

“คือเราดาว์นก่อนแล้วก็ผ่อนแล้วก็โปะเลย จริงๆต้องบอกว่า 10 ล้าน มันก็บวกดอกด้วยนะ ซื้อจริงราคาบ้าน 7 ล้าน ประมาณนี้”


ถึงสถานการณ์ปัจจุบันเขาก็ถูกผลกระทบเช่นกันเรียกว่า งานหายหมด จึงได้หันไปสร้างธุรกิจส่วนตัวหวังว่าจะเป็นมรดกตกทอดให้ลูกให้หลานได้ โดยการทำธุรกิจซอสผัดกระเพรา แม้จะลองผิดลองถูกมาหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ย่อท้อ

“ความท้อมันจะทำให้เราเสียขวัญเสียกำลังใจและไม่อยากไปต่อไม่อยากทำต่อ อย่าไปท้อมัน แต่เราต้องเริ่มลองมันด้วยวิธีใช้ทุนให้น้อย เริ่มจากสิ่งเล็กๆไปก่อน ถ้าเรามองว่ามันไปได้ค่อยขยายแล้วลงทุนให้มันเยอะขึ้น ค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปคิดแล้วทำใหญ่เลย”