ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยที่มีมูลค่าตลาดต่อปีสูงถึง 9 หมื่นล้านบาท กำลังเผชิญผลกระทบเทคโนโลยี ดิสรัปชั่น ทำให้ธุรกิจขายตรงปรับแผนกลยุทธ์รับกำลังซื้อฟื้นปี 66 หันใช้ออนไลน์ ปรับไลน์สินค้า ติดตามได้จากรายงาน
ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยที่มีมูลค่าตลาดต่อปีสูงถึง 9 หมื่นล้านบาท กำลังเผชิญผลกระทบเทคโนโลยี ดิสรัปชั่น และการแพร่ระบาดโควิด 19 ที่ทำให้กำลังซื้อหดตัวลง จำเป็นต้องปรับแผนธุรกิจเพื่อสร้างยอดขายให้เติบโต และรอรับกำลังซื้อที่จะฟื้นกลับมาเป็นปกติในปี 2566
กรรมการฝ่ายการศึกษาสมาคมการขายตรงไทย สุชาดา ธีรวชิรกุล ระบุ ตลาดธุรกิจขายตรงถือว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด 19 เพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจภาคบริการอื่นๆ สะท้อนจากกำลังซื้อสินค้าขายตรงในปี 2563 ที่หดตัว 10-20% แต่ภาพรวมตลาดขายตรงยังมีมูลค่า 9.24 หมื่นล้านบาท ลดลง 1% เท่านั้น ส่วนครึ่งปีแรก 2564 ภาพรวมตลาดติดลบ 2-3% และคาดว่าจะฟื้นตัวไตรมาส 4 ทำให้มูลค่าตลาดทั้งปีอยู่ที่ 0%
ส่วนการปรับแผนธุรกิจขายตรงได้เริ่มปรับตัวก่อนการแพร่ระบาดโควิด ที่มีการหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ขายตรงมากขึ้น และเมื่อมีการแพร่ระบาดยิ่งเป็นตัวเร่งให้การขายแบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับผู้ประกอบการได้มีการปรับไลน์สินค้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อรับกำลังซื้อที่จะฟื้นกลับมาเป็นปกติในปี 2566
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติให้จัดงานประชุมสมาพันธ์การขายตรงโลก ครั้งที่ 16 ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2564 ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจขายตรงไทยในเวทีนานาชาติ
ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจ บิซอินไซท์ รายงาน