“ศักดิ์สยาม” เผยศูนย์วัคซีนบางซื่อฉีดเกือบ 2 ล้านโดสแล้ว

“ศักดิ์สยาม” เผยศูนย์วัคซีนบางซื่อฉีดเกือบ 2 ล้านโดสแล้ว

  • 0 ตอบ
  • 72 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

luktan1479

  • *****
  • 3464
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 


“ศักดิ์สยาม” เผยแผน ”ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ” เตรียมจบภารกิจ 28 พ.ย. ส่งพื้นที่คืน รฟท. ยอดฉีดผ่าน 131 วันเกือบ 2 ล้านโดส คาด พ.ย. ยอดทะลุ 3 ล้านโดส ส่วนเข็ม 3 บุคลากรคมนาคมขนส่งฉีดไปแล้วกว่า 7 หมื่นคน

วันที่ 1 ต.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ สถานีกลางบางซื่อ ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster dose) (เข็มที่ 3) ว่า หลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้รับนโยบายจากรัฐบาล ทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุขดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จึงได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บางส่วนของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเปิดเป็น “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” สำหรับรองรับการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. 2564 เป็นต้นมา ปัจจุบันได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรด่านหน้ากระทรวงคมนาคม พนักงาน
ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมถึงประชาชนทั่วไปแล้วทั้งสิ้น 1,948,160 โดส

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังพร้อมสนับสนุนให้ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อ รองรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 จากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 โดยได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณประตู 2 และประตู 3 รองรับผู้มารับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อแผนการเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง

ซึ่งวันที่ 24 ก.ย.-30 ก.ย. สามารถฉีดเข็ม 3 สำหรับบุคลากรด้านคมนาคมขนส่งไปแล้วจำนวน 70,000 ราย และคาดว่าจะฉีดครบทั้งหมดในเดือน ต.ค.นี้

@เปิดลงทะเบียน 6 ต.ค. เก็บตกเข็มแรก 100,000 คน

ในวันที่ 6 ต.ค. 2564 ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อจะเปิดให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนเข็มที่ 1 อีกจำนวน 100,000 คน ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนระวัง อย่าหลงเชื่อการชักชวนในลักษณะจ่ายเงินเพื่อลัดคิวฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นประเด็นที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคมกำลังสืบสวนเอาผิด

@สาธารณสุขกำหนด 28 พ.ย. จบภารกิจฉีดวัคซีนพร้อมคืนพื้นที่ให้ รฟท.

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตามแผนกระทรวงสาธารณสุขจะจบภารกิจฉีดวัคซีน ณ สถานีกลางบางซื่อในวันที่ 28 พ.ย.นี้ และส่งมอบพื้นที่คืนให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประมาณ 20,000 กว่าตารางเมตร แต่หากยังจำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อฉีดบูสเตอร์เข็มที่ 3 ก็ยังสามารถพิจารณาใช้พื้นที่ต่อได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุขว่าจะมีภารกิจอื่นๆ เพิ่มเติมไว้หรือไม่ หากมีความจำเป็นต้องใช้ต่อก็ต้องเกลี่ยพื้นที่ให้ใช้ต่อไป

โดยหากจะมีการใช้พื้นที่ต่อก็จะกระทบต่อการให้บริการรถไฟสายสีแดง เนื่องจาก รฟท.มีการเตรียมแผนการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ที่จะทยอยเปิดให้บริการเป็นเฟส

สำหรับแผนการให้บริการรถไฟทางไกลในอนาคต ซึ่งกำหนดใช้พื้นที่ประตู 4 เป็นทางเข้า-ออกสำหรับรถไฟทางไกล และใช้ประตู 1 สำหรับเป็นทางเข้า-ออกรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยคาดว่าภารกิจในการฉีดวัคซีนจะแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่คืนได้ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นี้ แต่หากยังจำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อฉีดบูสเตอร์เข็มที่ 3 ก็สามารถพิจารณาต่อได้ แต่ขอดูสถานการณ์ก่อน

@เตรียมประมูล "บางซื่อ-12 สถานีสายสีแดง" ต.ค.นี้

ส่วนความคืบหน้าการเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบของสถานีกลางบางซื่อนั้น ได้มอบให้ ร.ฟ.ท.ดำเนินการทั้งในส่วนการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานีโดยแบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่

1. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

2. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ โดยทั้ง 2 สัญญานี้จะเป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี เพื่อให้เกิดประโยชน์ตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุน

3. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี

4. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี ซึ่ง 2 สัญญานี้เป็นสัญญาระยะสั้น 3 ปี

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.กำหนดออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอในเดือนตุลาคมนี้ ในส่วนกระบวนการพิจารณาผลการประกวดราคาและเอกชนสามารถเข้ามาดำเนินการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในต้นปี 2565 โดยระยะเร่งด่วนจะต้องเข้ามาบริหารพื้นที่บริเวณประตู 4 ซึ่งจะพัฒนาเป็นร้านอาหารสำหรับให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตามด้วยการพัฒนาพื้นที่ห้างร้านต่างๆ ในรูปแบบชอปปิ้งมอลล์ ซึ่งเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ได้จัดเตรียมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือคีออสก์มาให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่ประชาชนไว้แล้ว

ส่วนการให้บริการรถทางไกล บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ขณะนี้ได้เริ่มทดลองขบวนรถทางไกลขึ้น-ลงสถานีกลางบางซื่อ ชั้นที่ 2 ซึ่งได้เริ่มทดสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยให้ประเมินการควบคุมเวลาของขบวนรถทางไกล และจัดทำตารางเดินรถใหม่ให้แล้วเสร็จ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน ก่อนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธันวาคม 2564

@สธ.เผยยอด 131 วัน ศูนย์บางซื่อฉีดแล้วเกือบ 2 ล้านโดส

ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อดำเนินการฉีดวัคซีนมาแล้ว 131 วัน มียอดฉีดวัคซีนสะสมนับตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม-30 กันยายน 2564 จำนวน 1,948,160 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 1,358,923 โดส (70%) เข็มที่ 2 จำนวน 514,353 โดส (26%) และเข็มที่ 3 จำนวน 74,884 โดส (4%) เฉลี่ยวันละ 14,986 โดส โดยวัคซีนหลักที่ใช้ฉีดจะเป็น Astrazeneca 1,565,193 โดส รองลงมาคือ Sinovac 381,563 โดส และสุดท้าย Pfizer 1,404 โดส

ดำเนินการฉีดในกลุ่มเป้าหมายแล้ว 8 กลุ่ม มากที่สุดคือ กลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะจำนวน 330,000 ราย, ผู้สูงอายุจำนวน 300,000 ราย, ผู้ที่จะได้กระตุ้นเข็มที่ 3 จำนวน 170,000 ราย, ผู้ประกอบการร้านอาหารและ Street Food จำนวน 105,000 ราย, ผู้มีน้ำหนักเกิน 100 กก. จำนวน 90,000 ราย, ครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 45,000 ราย, ชาวต่างประเทศ 38,000 ราย, บุคลากรด้านงานโลจิสติกส์จำนวน 25,000 ราย และสตรีมีครรภ์จำนวน 2,100 ราย

ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อมีประสิทธิภาพในการฉีดได้ประมาณ 15,000 คน/วัน โดยใช้เวลาในการบริการตั้งแต่เริ่มจนถึงพักรอดูอาการหลังฉีดเฉลี่ย 30 -52 นาที/คน

คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน 2564 จะมียอดฉีดวัคซีนสะสมที่ 1.5 ล้านราย คิดเป็นจำนวนวัคซีน 3 ล้านโดส ก่อนที่จะมีการปิดศูนย์และส่งมอบพื้นที่ให้ รฟท.ตามนโยบายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ต่อไป