นาทีชีวิต! “บัวผัน ทังโส” มือเท้าชา วูบหมดสติ พบเส้นเลือดในสมองตีบ

นาทีชีวิต! “บัวผัน ทังโส” มือเท้าชา วูบหมดสติ พบเส้นเลือดในสมองตีบ

  • 0 ตอบ
  • 65 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

dsmol19

  • *****
  • 2466
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




“บัวผัน ทังโส” เล่าวินาทีชีวิต มือเท้าชา ก่อนวูบหมดสติ ต้องแอดมิทด่วน เหตุโหมงานหนัก พักผ่อนน้อยสะสมนาน จนเส้นเลือดในสมองตีบ อัปเดตอาการดีขึ้นมาก แต่ยังเหนื่อย วิธีรักษาคือกินยาและหมั่นออกกำลังกาย

หลังจากหมอลำซิ่งชื่อดัง “บัวผัน ทังโส” เกิดมีอาการวูบ มือเท้าชา ก่อนวูบไปเหมือนคนน็อกหมดสติ จนต้องหามส่งโรงพยาบาลเพื่อแอดมิทด่วน ล่าสุดวันนี้เจ้าตัวก็สามารถกลับมารับงานปกติได้แล้ว แต่ก็ยังมีอาการเหนื่อยหลงเหลืออยู่ เหตุเพราะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ โดยสาวบัวผันได้เหตุการณ์ในวันนั้น บอกว่าตกใจและช็อกมาก เพราะมันเกี่ยวกับเส้นประสาท กลัวจะกลับมาทำงานไม่ได้อีก

“ตอนนี้ก็ยังเหนื่อยอยู่ค่ะ แต่อาการก็ดีขึ้น เพราะได้เปลี่ยนตัวยาแล้ว แต่ ณ ตอนนั้นตกใจค่ะ แล้วก็กลัวด้วย เพราะมันเป็นเกี่ยวกับเส้นประสาทกลัวจะกลับมาทำงานไม่ได้ แต่พอเปลี่ยนตัวยาแล้วก็ออกกำลังกาย ร่างกายก็ค่อยๆ ดีขึ้น กลัวมาก มากจริงๆ เพราะตอนนี้เราก็เป็นเสาหลักของบ้านอยู่ กลัวคนข้างหลังจะไม่มีกิน เราก็ต้องดิ้นต่อไป แต่ ณ วันนั้นเราตกใจมากจริงๆ ช็อกเลย”
เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว น็อกไปเพราะเปลี่ยนยาตัวใหม่
“พอดีช่วงโควิดที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนตัวยาที่รักษาเกี่ยวกับโรคเส้นประสาท หลังจากกินมา 20 ปี แล้วเมื่อตอนเช้าของวันอาทิตย์ ก็นั่งกินข้าวอยู่บนเก้าอี้ แล้วรู้สึกมึนเวียน หลังจากนั้นก็ล้มฟุบลงกับพื้นเลย เหมือนคนน็อกไปเลย ก็เลยต้องเข้าโรงพยาบาล

ตอนนั้นรู้สึกสมองมันชา แล้วตัวก็ชา มีคนขึ้นเหยียบปลายมือปลายเท้าประมาณ 6 คน ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เจ็บ ไม่ปวด มันชาไปหมด พอเอาอะไรมาจิ้มๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย จากนั้นก็เข้าโรงพยาบาล คุณหมอก็รักษาตามอาการ”

ผลสรุปหมอบอกเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ
“ใช่ แต่เบื้องต้นหมอรักษาโรคเส้นประสาทที่เคยเป็นก่อน วิธีการรักษาคือทานยา มีการทานยา แล้วก็เปลี่ยนตัวยาทุกอาทิตย์ รวมถึงหมั่นออกกำลังกายด้วย หมอไม่ได้มีข้อห้ามอะไร เราทำอะไรประจำ ก็ทำไปก่อน อายุไม่มีผละต่อการรักษา ขอแค่หมั่นออกกำลังกายแล้วก็ดูแลตัวเอง ไม่ต้องทุ่มเทมาก แล้วก็พักผ่อนให้มากกว่าเดิม”

บอกโรคนี้สาเหตุเกิดจากพักผ่อนน้อยสะสม
“พักผ่อนน้อย ซึ่งสะสมมานานแล้ว เราทำงานมาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนตอนนี้ก็ 43 แล้ว กลางวัน กลางคืน ก็ไม่ได้พักผ่อน รับวันละ 3-4 งาน เงินเราก็อยากได้ แล้วก็คิดว่าเราแข็งแรง เราทำมันได้ เราไม่คิดว่าร่างกายจะมาทรุดในเร็ววัน”

จากนี้ต้องเลือกรับงานให้เหมาะกับสุขภาพ
“ต้องเลือกรับงาน คือทำวงน้อยลง ไม่ใหญ่เหมือนเดิม ประมาณกลางๆ”