อว. มอบ ‘หุ่นยนต์ปิ่นโต 2’ ให้ 6 โรงพยาบาลใช้ส่งอาหารและเวชภัณฑ์

อว. มอบ ‘หุ่นยนต์ปิ่นโต 2’ ให้ 6 โรงพยาบาลใช้ส่งอาหารและเวชภัณฑ์

  • 0 ตอบ
  • 84 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hanako5

  • *****
  • 1982
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




อว. โดย กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) จัดพิธีส่งมอบหุ่นยนต์บังคับขนาดเล็กสำหรับใช้ในการส่งอาหารและเวชภัณฑ์ให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แก่โรงพยาบาล 6 แห่ง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในการส่งมอบ

วันนี้ (29 ก.ย.) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานการส่งมอบหุ่นยนต์บังคับขนาดเล็ก (หุ่นยนต์ปิ่นโต 2) สำหรับใช้ในการส่งอาหารและเวชภัณฑ์ให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในระยะแรก จำนวน 12 ตัว ให้แก่โรงพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก, สถาบันประสาทวิทยา, โรงพยาบาลลาดกระบัง, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และโรงพยาบาลราชพิพัฒน์



การเปิดกิจกรรมการส่งการมอบหุ่นยนต์ปิ่นโต 2 จำนวน 80 ตัว ให้แก่โรงพยาบาลในกรุงเทพและปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงที่มีความจำเป็นในการใช้หุ่นยนต์ช่วยส่งอาหารและเวชภัณฑ์ในการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยมี สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นผู้สนับสนุนทุนพัฒนาให้กับกรมวิทยาศาสตร์บริการ ในการพัฒนา "หุ่นยนต์ปิ่นโต 2” ดังกล่าว เพื่อลดการสัมผัสเชื้อโรคติดต่ออันตรายและช่วยลดปริมาณการใช้งานอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เช่น ชุด PPE เป็นต้น

สำหรับหุ่นยนต์บังคับขนาดเล็กที่ใช้ในการส่งอาหารและเวชภัณฑ์ให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หรือ “หุ่นยนต์ปิ่นโต 2” นั้น เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหุ่นยนต์ปิ่นโต ของ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีคุณสมบัติเด่นที่นำไปใช้ขนส่งอาหารและเวชภัณฑ์แก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยการใช้รถเข็นควบคุมทางไกล ควบคุมผ่านทางรีโมทคอนโทรลระยะไกลได้ อีกทั้งมีระบบแสดงผลการเคลื่อนที่ผ่านจอแสดงผลเพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสียหายของอุปกรณ์ขณะใช้งาน สามารถใช้ได้ติดต่อกันนานถึง 9 ชั่วโมง และเพื่อรองรับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อช่วยลดการสัมผัสและลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ และยังช่วยลดการใช้ชุด PPE ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้อีกด้วย