ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส สายการบินสัญชาติสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (28 ก.ย.) พนักงานบริษัทในอเมริกาเกือบ 600 คน เตรียมถูกเลิกจ้าง
หลังไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของทางสายการบิน
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม บริษัทแห่งนี้กลายเป็นสายการบินแรกของสหรัฐฯ ที่บังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 พนักงานภายในประเทศทุกคน และจำเป็นต้องแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันจันทร์ (27 ก.ย.) เป็นต้นไป
ล่าสุด สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะเริ่มกระบวนการไล่ออกพนักงาน 593 คน ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน ในวันอังคาร (28 ก.ย.)
"มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากอย่างยิ่ง แต่การคงความปลอดภัยแก่คณะทำงานของเรา คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญลำดับแรกมาตลอด" สกอตต์ เคอร์บี ซีอีโอ และเบรตต์ ฮาร์ท ประธานบริษัทระบุในบันทึกที่ส่งถึงพนักงาน
เจ้าหน้าที่ของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เผยด้วยว่าทางสายการบินได้รับคำร้องขอละเว้นการฉีดวัคซีนจากพนักงานจำนวนหนึ่ง ในเหตุผลทางศาสนาและทางการแพทย์ ซึ่งพนักงานเหล่านี้คิดเป็นจำนวนไม่ถึง 3% ของพนักงานในสหรัฐฯ 67,000 คน
บริษัทแห่งนี้มีแผนในเบื้องต้น ให้พนักงานได้รับการยกเว้นชั่วคราวในเหตุผลทางศาสนา ลางานโดยไม่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม สืบเนื่องจากมีการฟ้องร้องทางกฎหมายคัดค้านนโยบายดังกล่าว
นอกเหนือจากกลุ่มบุคคลที่ร้องขอการยกเว้น ทาง ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส บอกว่าพนักงานประจำสหรัฐฯ มากกว่า 99% ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามนโยบายของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โฆษกของบริษัทเปิดเผยว่า ทางสายการบินมีแผนจ้างพนักงานราว 25,000 อัตราในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และการฉีดวัคซีนจะเป็นเงื่อนไขสำหรับการจ้างงานพนักงานใหม่ทุกคน
นอกจากนี้แล้ว ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ยังบังคับนักบินฝึกหัดทุกคนที่โรงเรียนฝึกหัดการบิน ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
ทางบริษัทปฏิเสธข้อสังเกตที่ว่ามาตรการบังคับฉีดวัคซีนอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางผู้สมัครงานที่ประสงค์ทำงานกับทางสายการบิน "ยูไนเต็ด ได้รับใบสมัครงานจากผู้สมัคร 700 คน สำหรับตำแหน่งงาน 400 อัตรา ที่มหกรรมจัดหางานในเดนเวอร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะเดียวกัน ได้รับใบสมัครงานจากผู้สมัครกว่า 20,000 คน สำหรับตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เปิดรับราว 2,000 อัตรา" โฆษกระบุ
(ที่มา : เอ็นบีซีนิวส์)