ACE คว้าโรงไฟฟ้าชุมชนมากสุด 18 โครงการ

ACE คว้าโรงไฟฟ้าชุมชนมากสุด 18 โครงการ

  • 0 ตอบ
  • 71 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Jenny937

  • *****
  • 2838
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 


ACE คว้าโรงไฟฟ้าชุมชนมากสุด 18 โครงการ
« เมื่อ: กันยายน 28, 2021, 08:50:00 am »


‘แอ๊บโซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้’ คว้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) มากสุดรวม 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมและกำลังการผลิตเสนอขายรวม 59 เมกะวัตต์ และ 50 เมกะวัตต์

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) (ACE) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 มีผู้ได้รับการคัดเลือกจำนวน 43 รายนั้น บริษัทย่อยของแอ๊บโซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้จำนวน 18 บริษัท รวม 18 โครงการ ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมและกำลังการผลิตเสนอขายรวม 59 เมกะวัตต์ และ 50 เมกะวัตต์ตามลำดับ โดยโครงการที่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าวเป็นโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) ทั้งหมด 18 โครงการ โดยอยู่ในจังหวัดเชียงราย กำแพงเพชร บุรีรัมย์ และราชบุรี

สำหรับขั้นตอนต่อไปจะเป็นการศึกษาเงื่อนไขการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วันหลัง กกพ.ประกาศรายชื่อ โดย กกพ.กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายใน 36 เดือนนับจากวันลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือภายในวันที่ 21 มกราคม 2568

“การได้รับคัดเลือกประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าสำคัญของบริษัทที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้นำพลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยเสริมให้เป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์รุดหน้ามากขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการประมูลครั้งนี้มาจากการที่บริษัทมีประสบการณ์และความสำเร็จในการพัฒนาและดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด รวมถึงข้อเสนอที่เชื่อว่าจะช่วยสร้างให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนแต่ละพื้นที่ได้สูงสุด”