เจียไต๋ เปิดตัวคอลเล็กชัน “RabAdapt” Upcycle จากถุงปุ๋ยสู่สินค้าไลฟ์สไตล์

เจียไต๋ เปิดตัวคอลเล็กชัน “RabAdapt” Upcycle จากถุงปุ๋ยสู่สินค้าไลฟ์สไตล์

  • 0 ตอบ
  • 65 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Fern751

  • *****
  • 2936
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 



เมื่อวานนี้ (24 กันยายน 2564) บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย เปิดตัวคอลเล็กชัน “แรบ อะแดป (RabAdapt)”กระเป๋าไลฟ์สไตล์ที่พัฒนาขึ้นจากกระสอบถุงปุ๋ยตรากระต่าย ในโครงการถุงปุ๋ยปลูกความยั่งยืน
โดยร่วมมือกับ แบรนด์วิชชุลดา (WISHULADA) ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มช่างตัดเย็บ ร้านปันกัน และมูลนิธิยุวพัฒน์ ที่จะส่งต่อโอกาสทางการศึกษาสู่น้องๆ เยาวชนและสู่สังคมไทยในยามวิกฤตโควิด-19

คอลเล็กชัน แรบ อะแดป (RabAdapt) ถือเป็นครั้งแรกของการแปลงโฉมกระสอบถุงปุ๋ยตรากระต่ายสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยกระบวนการ Upcycle ที่นำวัสดุเหลือใช้มาออกแบบและผลิตเป็นของใช้ชิ้นใหม่โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อสร้างประโยชน์ต่อผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากการนำกระสอบถุงปุ๋ยตรากระต่ายที่เหลือใช้มาเพิ่มมูลค่าและนำกลับมาใช้ซ้ำในรูปแบบกระเป๋าอย่างคุ้มค่า ทั้งยังช่วยกระจายรายได้สู่กลุ่มช่างตัดเย็บที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เจียไต๋จะส่งมอบกระเป๋าคอลเล็กชัน แรบ อะแดป (RabAdapt) ให้กับร้านปันกัน โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อนำไปจัดจำหน่าย โดยเงินที่ระดมได้ทั้งหมดจะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุนในมูลนิธิยุวพัฒน์ต่อไป

กระเป๋าคอลเล็กชัน แรบ อะแดป (RabAdapt) ออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย ทันสมัย และเน้นรูปทรงสี่เหลี่ยม เพื่อให้เกิดเศษเหลือทิ้งจากการตัดขอบมุมต่างๆ น้อยที่สุด (Zero waste) อีกทั้งได้แต่งแต้มสีสันด้วยเศษผ้าไหมจากสินค้า OTOP จังหวัดนนทบุรี โดยอาศัยฝีมือการผลิตและความชำนาญจากกลุ่มช่างตัดเย็บที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นผู้ผลิตทีละชิ้นทีละใบ ทั้งนี้ คอลเล็กชัน แรบ อะแดป ประกอบด้วยสินค้า 5 ชนิด ได้แก่ กระเป๋าใบเล็ก กระเป๋าคล้องคอ กระเป๋าคลัชอเนกประสงค์ กระเป๋าสะพายข้าง และกระเป๋าเป้



นางสาวมนันย์พร เจียรวนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึงการจัดโครงการในครั้งนี้ว่า “เจียไต๋ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านความยั่งยืนมาโดยตลอด ด้วยหลัก 3P ได้แก่ Prosperity, People และ Planet ที่เราได้พยายามปลูกฝังจนเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง

นอกจากนั้น ที่เจียไต๋ เรายังยึดมั่นในค่านิยมขององค์กร โดยเฉพาะ Innovation ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของเรา ซึ่งเอื้อให้เกิดการเปิดกว้างทางความคิดและสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ ที่ช่วยผลักดันองค์กรไปสู่ความยั่งยืน จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ เพื่อนำกระสอบถุงปุ๋ยตรากระต่ายที่เหลือจากการใช้งานกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ที่ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เราจึงมองภาพที่ใหญ่ขึ้น จึงเกิดเป็นโครงการพัฒนาสังคมเพื่อความยั่งยืนที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับทั้งผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม 

เราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากคุณเอ๋ วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ ที่ออกแบบกระเป๋าได้อย่างตอบโจทย์กระบวนการ Upcycle และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ถุงปุ๋ยได้เป็นอย่างดี โดยโครงการนี้ยังได้สนับสนุนกลุ่มช่างตัดเย็บที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้มีรายได้เสริมในยามวิกฤต และที่สำคัญ คือการจับมือกับร้านปันกัน โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ โดยเจียไต๋จะมอบกระเป๋าคอลเล็กชัน แรบ อะแดป ที่ผลิตขึ้นทั้งหมดให้ทางร้านนำไปจัดจำหน่ายใน 16 สาขา รวมถึงในช่องทางออนไลน์ด้วย ซึ่งเงินที่ระดมได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายกระเป๋าคอลเล็กชัน แรบ อะแดปนี้ จะช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับน้องๆ เยาวชนไทยต่อไป”

วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้
วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้

วีระพันธ์ จันทร์แต่งผล และบานชื่น กรรณิการ์ ช่างตัดเย็บกระเป๋า แรบ อะแดป
วีระพันธ์ จันทร์แต่งผล และบานชื่น กรรณิการ์ ช่างตัดเย็บกระเป๋า แรบ อะแดป

นางสาววิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ (Social Activist Artist) และผู้ออกแบบคอลเล็กชัน แรบ อะแดป อธิบายถึงแนวคิดการออกแบบและการเข้าร่วมโครงการนี้ว่า “ปัจจุบันขยะอุตสาหกรรมแฟชั่น สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เช่นเดียวกันกับขยะพลาสติกต่างๆ เราได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว และในขณะเดียวกัน ก็ได้รับคำเชิญจากเจียไต๋ ให้เข้าร่วมในโครงการนี้ ซึ่งก็ตรงกับแนวคิดการทำงานของตัวเองในการเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นงานศิลปะอันล้ำค่า (Turning Trash to Treasured Art)

สำหรับคอลเล็กชัน แรบ อะแดป ในโครงการถุงปุ๋ยปลูกความยั่งยืน ทางแบรนด์วิชชุลดานำวัสดุเหลือใช้ทั้งกระสอบถุงปุ๋ยตรากระต่ายและนำเศษผ้าไหมจากสินค้า OTOP จังหวัดนนทบุรี มาผสานร่วมกันเป็นงานศิลปะด้วยกระบวนการ Upcycle ที่กระเป๋าทุกใบมีการจัดเรียงสีสันของเศษผ้าแตกต่างกันไป ผู้ที่ซื้อกระเป๋าแรบ อะแดป ก็เสมือนได้งานศิลปะไปสะสม และยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง นอกจากนี้ เศษกระสอบถุงปุ๋ยจากการตัดเย็บกระเป๋าทุกใบ เรายังนำมาจัดทำ ดิสเพลย์กระต่ายสำหรับโชว์สินค้าคอลเล็กชันนี้ ซึ่งช่วยสานต่อแนวคิด Zero Waste ลดปัญหาขยะที่เกิดขึ้นจากการผลิตอีกด้วย
แบรนด์วิชชุลดาเชื่อว่างานศิลปะและการออกแบบที่คำนึงต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จะมีส่วนสำคัญในการช่วยลดปัญหาขยะล้นโลกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานที่ทุกท่านได้รับจะช่วยจุดประกายแรงบันดาลใจในการหันมาใส่ใจและร่วมกันจัดการขยะอย่างสร้างสรรค์ต่อไป”

ด้าน นายวีระพันธ์ จันทร์แต่งผล และนางสาวบานชื่น กรรณิการ์ ตัวแทนกลุ่มช่างตัดเย็บ ผู้ผลิตกระเป๋า กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ด้วยประสบการณ์ในการทำกระเป๋าแฟชั่นมานานกว่า 29 ปี และเป็นช่างแพทเทิร์นของแบรนด์เครื่องหนังแบรนด์หนึ่ง ผมและเพื่อนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมกับคอลเล็กชัน แรบ อะแดป ในโครงการถุงปุ๋ยปลูกความยั่งยืนนี้ และมีหน้าที่ในการผลิตกระเป๋าที่ทำจากถุงปุ๋ยตรากระต่าย และเริ่มท้าทายยิ่งขึ้นด้วยการนำเศษผ้าไหมมาตกแต่งในตัวกระเป๋า ซึ่งช่วยให้งานนี้ออกมาได้อย่างลงตัวและแต่ละใบจะมีลวดลายของผ้าไหมที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากความภูมิใจที่ได้เห็นผลงานที่เราตั้งใจผลิตกันทีละใบๆ แล้ว โครงการนี้ยังช่วยให้เราได้มีรายได้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 อีกด้วย เพราะทีมช่างต่างถูกพักงานอย่างไม่มีกำหนด โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยสร้างรายได้เสริมให้พวกเราสามารถผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้”



ส่งต่อโอกาสทางการศึกษาจากพี่กระต่ายสู่น้องเยาวชนไทย

นางฐาปนีย์ สินาดโยธารักษ์ ผู้อำนวยการโครงการร้านปันกัน โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ปัจจุบัน ยังมีเด็กไทยจำนวนมากที่ขาดโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ มูลนิธิยุวพัฒน์ได้ช่วยเหลือ โดยมอบทุนการศึกษาและดูแลติดตามนักเรียนทุนให้เรียนจบชั้น ม. 6 หรือ ปวช. 3 เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสและมีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมูลนิธิยุวพัฒน์มีนักเรียนทุนที่อยู่ในความดูแล 8,269 คน ทั่วประเทศ

ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 มูลนิธิยุวพัฒน์ได้ติดตามนักเรียนทุนใกล้ชิดมากขึ้น โดยร่วมกับคุณครู กลุ่มพี่เลี้ยงอาสาที่มาช่วยเหลือดูแลนักเรียนทุนผ่านออนไลน์และการพูดคุยทางโทรศัพท์ และสำหรับการเรียนการสอนที่ต้องปรับตัวมาเรียนผ่านออนไลน์ เงินทุนที่เด็กๆ ได้รับ ณ ขณะนี้ บางส่วนจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น
สำหรับโครงการถุงปุ๋ยปลูกความยั่งยืนที่ได้มาร่วมกับเจียไต๋และภาคี เพื่อเปลี่ยนของเหลือใช้ให้เป็นกระเป๋าสวยๆ ในคอลเล็กชัน แรบ อะแดปนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับน้องๆ ผ่านโครงการร้านปันกันได้มากขึ้น และคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบที่จะจุดประกายให้กับธุรกิจอื่นๆ ที่อยากจะช่วยเหลือสังคมได้นำไปเป็นแบบอย่างต่อไป”

สำหรับผู้ที่สนใจ กระเป๋าคอลเล็กชัน แรบ อะแดป มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านปันกันทั้ง 16 สาขา และช่องทางออนไลน์ที่ LINE My Shop: pankan online shop หรือ https://shop.line.me/@pankanonline และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official: @pankanonline ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเงินที่ระดมได้ทั้งหมดจะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุนในมูลนิธิยุวพัฒน์ มาร่วมส่งต่อโอกาส หยิบยื่นรอยยิ้ม และเติมกำลังใจให้กับสังคมไปด้วยกัน พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการได้ทาง www.chiataigroup.com และ Facebook: Chiatai.group.official