โฆษกรัฐบาลแจง
ขยายเพดานหนี้สาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่การคลังให้รัฐ ใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจจากพิษโควิด ส่วนจะกู้เพิ่มหรือไม่ดูที่ความจำเป็น ยันยึดวินัยการเงินการคลัง
วันนี้(21 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมาย กรณีการขยายเพดานหนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เพื่อเตรียมการกู้เงินต่อหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าการขยายเพดานหนี้สาธารณะครั้งนี้เป็นการเพิ่มพื้นที่ทางการคลังให้กับรัฐบาล ในกรณีที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการคลังในการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ซึ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องมาปี 2564 รัฐบาลได้ใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิดมาส่วนหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ดีจะกู้หรือไม่กู้เพิ่มเติมก็จะพิจารณาตามความจำเป็นและแผนงานที่ชัดเจน กู้เท่าที่จำเป็นไม่ใช่กู้ครั้งเดียวเต็มพิกัด ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เป็นการปรับทุกๆ 3 ปี เป็นไปตาม พ.ร.บ.อยู่แล้ว สำหรับแผนการหารายได้เพื่อชำระหนี้นั้น รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนเรื่องการเร่งรัดหารายได้ใหม่ๆตามแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น โมเดลเศรษฐกิจ BCG การลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) การเสริมสร้างมูลค่าและการส่งออก ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภัณ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และรายได้ของรัฐ