ธุรกิจจำนำทะเบียนรถ จ่อยื่นขอปรับเกณฑ์ค่าทวงถามหนี้ 22 ก.ย. นี้

ธุรกิจจำนำทะเบียนรถ จ่อยื่นขอปรับเกณฑ์ค่าทวงถามหนี้ 22 ก.ย. นี้

  • 0 ตอบ
  • 74 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Chanapot

  • *****
  • 3237
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




“สมาคมธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ” จ่อยื่นหนังสือ“มหาดไทย” 22 ก.ย.นี้ ขอปรับเกณฑ์ค่าทวงถามหนี้ให้ครอบคลุมการจำนำทะเบียนรถ หลังเกณฑ์ใหม่ เก็บค่าปรับไม่ได้ ย้ำไม่อยากได้เงิน แต่อยากได้เครื่องมือต่อรองลูกหนี้คืน โอดตามเก็บหนี้ยาก ลูกหนี้ส่อเบี้ยวหนี้ง่ายขึ้น

ตามที่ สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ (VTLA) เตรียมเข้าพบตัวแทนกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 22 ก.ย.นี้  เพื่อยื่นหนังสือให้ภาครัฐพิจารณาทบทวนแก้ไขประกาศการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและการใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ถูกกฎหมายเชื่อถือได้ ที่ได้เพิ่มเติมประกาศเรื่องดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา ไปเมื่อ 13 ส.ค.2564 และประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อ 12 ก.ย.ที่ผ่านมานี้

แหล่งข่าวสมาคม VTLA เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ขอทางกระทรวงมหาดไทยพิจารณาปรับปรุงเนื้อหาในข้อกำหนดตามประกาศดังกล่าวให้ครอบคลุมธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เพื่อให้ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถสามารถคิดค่าทวงถามหนี้ได้เหมือนกับธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถ  เช่น กำหนดอัตราค่าทวงถามหนี้ภาคสนามให้เก็บเพิ่มเติมตามที่เกิดขึ้นจริง ไม่เกิน 400 บาทต่อรอบการทวงถามหนี้  เพราะเป็นธุรกิจที่เหมือนกันกลุ่มลูกค้าก็กลุ่มเดียวกัน


ทั้งนี้จากเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว ทำให้เราเก็บค่าทวงถามหนี้ไม่ได้อีกต่อไปเมื่อผู้ประกอบการขาดเครื่องมือที่ใช้เจรจาต่อรองลูกหนี้ มีความเสี่ยงตามเก็บหนี้ยากขึ้น และเกณฑ์ใหม่ยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกหนี้มีโอกาสผิดวินัยการเงินมากขึ้น เพราะเบี้ยวจ่ายหนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อไม่มีค่าปรับ ลูกหนี้ก็ไม่ต้องรีบจ่ายหนี้  มีโอกาสทำให้หนี้เสียในระบบเพิ่มขึ้น

“จริงๆ แล้วเราไม่อยากได้เงินค่าปรับทวงถามหนี้หรืออยากเก็บค่าปรับเพิ่ม เพราะถึงได้ 400 บาทก็ไม่คุ้มต้นทุน หรือค่าปรับที่ลดลงก็ไม่กระทบรายได้ภาพรวม เพราะปกติค่าปรับคิดเป็นสัดส่วน 1-2 %ของรายได้รวมเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการมองว่า ค่าปรับทวงถามหนี้ ต้องมี เพราะเป็นเครื่องมือที่เราสามารถใช้เจรจาต่อรองลูกหนี้ เพื่อให้ตามเก็บเงินต้นกลับคืนมาได้เท่านั้น” 

 


อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ทางสมาคมฯ ได้หารือทางกระทรวงมหาดไทย ในประเด็นข้อกังวลนี้แล้ว ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย มีความเข้าใจดีและให้ทางสมาคมฯ มายื่นหนังสือขอปรับเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อจะดำเนินการปรับแก้ไขประกาศดังกล่าวเพิ่มเติมต่อไป

“ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คนทั่วไปมักจะเข้าใจผิดว่า คือสินเชื่อเช่าซื้อรถด้วย ทำให้ประกาศดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมมาถึงเรา เรามีลักษณะนิติกรรมคนละรูปแบบกับสินเชื่อเช่าซื้อรถ แต่มีลักษณะธุรกรรมเหมือนกันและมีกลุ่มลูกค้าเดียวกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะอยู่บนสัญญาประเภทไหนเท่านั้น”