ปรับเกณฑ์ใหม่ช่วยกลุ่มไมโคร-SMEs เปราะบางมากขึ้น "บสย.”

ปรับเกณฑ์ใหม่ช่วยกลุ่มไมโคร-SMEs เปราะบางมากขึ้น "บสย.”

  • 0 ตอบ
  • 67 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

dsmol19

  • *****
  • 2466
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




บสย.เปิดค้ำแล้ว พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2 วงเงิน 100,000 ล้านบาท มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย ปรับเกณฑ์ใหม่ช่วยกลุ่มไมโคร – SMEs เปราะบางมากขึ้น จ่ายเบาค่าธรรมเนียมต่ำถูกกฎหมายเชื่อถือได้ เริ่มต้น 1 % ต่อปี นาน 4 ปี เติมสภาพคล่องขยายวงเงินสินเชื่อ สูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย

นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บสย.ได้เปิดรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ตามพระราชกำหนดให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 ระยะที่ 2 พ.ศ.2564 วงเงิน 100,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มได้แก่ 1.ผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร (Micro) 2.ผู้ประกอบการ SMEs 3.กลุ่มคอร์ปอเรท (Corporate)

โดยจุดเด่นของโครงการคือ การปรับเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง ได้ลดภาระต้นทุนค่าธรรมเนียม และเพิ่มโอกาสได้วงเงินสินเชื่อเพิ่ม ได้แก่ 1.ปรับลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันทันทีตั้งแต่ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง จ่ายเบา เริ่มต้นเพียง 1% ต่อปีต่อเนื่อง 4 ปีแรก รวม 13% ตลอดระยะเวลา 10 ปี

2.เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่ม SMEs เปราะบาง ได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย3.เพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อโดย บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเต็ม 100% ในกลุ่มไมโคร (Micro) จากเดิม 90% และกลุ่ม SMEs เปราะบาง จากเดิม 80%

สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มคอร์ปอเรท (Corporate) รัฐบาลได้ช่วยบรรเทาภาระต้นทุน จ่ายค่าธรรมเนียม 1% ต่อปีต่อเนื่อง 2 ปีแรก รวม 14% ตลอดระยะเวลา 10 ปี โดย บสย.ค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน และมีระยะเวลาค้ำประกันสูงสุดถึง 10 ปี เริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2564 สิ้นสุดรับคำขอวันที่ 9 ตุลาคม 2566


โดยคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ขอรับการค้ำประกันสินเชื่อประกอบด้วย 1.เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนและมีสถานประกอบการในประเทศไทย 2.มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 28 ก.พ.64 ไม่เกิน 500 ล้านบาท หรือไม่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับสถาบันการเงิน 3.ไม่เป็น NPL ณ 31 ธ.ค.62 และ4.ไม่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยกเว้น บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด MAI และ5.ไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน

ทั้งนี้ในกระบวนการพิจารณาการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ ประกอบด้วย 8 ขั้นตอนดังนี้ 1.ผู้ขอสินเชื่อติดต่อธนาคารพร้อมยื่นเอกสาร2.ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ 3.ธนาคารนำส่งเอกสารให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ 4.ธนาคารส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อมาที่ บสย. 5.บสย.ตรวจสอบเอกสารถูกต้องครบถ้วน 6.อนุมัติค้ำประกัน 7.บสย.แจ้งอนุมัติพร้อมส่งเอกสารเพื่อให้ธนาคารนัดหมายผู้ขอสินเชื่อ 8.ผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อ

โดยผู้ประกอบการที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับคำปรึกษาฟรีที่ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A. Center ที่ บสย. Call Center 02-890-9999 ในวันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น.

สำหรับผลดำเนินงาน ค้ำประกันสินเชื่อระหว่าง 1 มกราคมถึง 12 กันยายน 2564 บสย.ได้อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ รวมทุกโครงการวงเงินรวมกว่า 182,000 ล้านบาท และได้อนุมัติหนังสือค้ำประกัน (LG) ไปแล้วจำนวนกว่า 162,800 ฉบับ